WICE หุ้นโลจิสติกส์ โตสวนกระแส ราคายังมีอัพไซด์!

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้ เห็นแล้วอาจทำให้ “หายใจทั่วท้อง” ขึ้นมาบ้างความผันผวนอย่างรุนแรงเริ่มลดลง แต่ต้องยอมรับว่า “ตลาดยังคงเปราะบางสูง” เนื่องจากมีปัจจัยลบจำนวนมากเข้ามากระทบ อาทิ สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 / การถดถอยอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจไทย-โลกในช่วงต่อจากนี้ / การชะลอตัวของผลประกอบการบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ / ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน รอบใหม่ / แรงขายทำกำไรเนื่องจากดัชนีปรับสูงขึ้นมาระยะหนึ่ง ฯลฯ

อย่างไรก็ตามการลงทุนตามสูตรแสนคลาสสิค คือ เลือกหุ้นพื้นฐานดี ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูง ยังคงเป็นทางเลือกที่สามารถทำให้เรารอดตายได้จากทุกสถานการณ์ ขณะเดียวกันยังสร้างโอกาสในการทำกำไรทั้งในส่วนของเงินปันผล และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น

“หุ้นกลุ่มโลจิสติกส์”เป็นทางเลือกที่ดีหรือไม่ในเวลานี้ แม้ภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ปี 2563 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งหลายประเภทอยู่ในภาวะหดตัวตามการส่งออก และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงอย่างมาก แต่หุ้นโลจิสติกส์บางตัวกลับมีการเติบโตสูง สวนกระแสตลาดโดยรวมและที่สำคัญราคา“ยังมีอัพไซด์” เมื่อเทียบกับพื้นฐานและโอกาสในการเติบโต

บริษัท ไวส์โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ( WICE)เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มี Performance ดีต่อเนื่องแต่ราคาหุ้นอาจยังไม่สะท้อนผลงานรายได้และกำไรโตต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 2558 (วันที่เริ่มต้นซื้อขายวันแรก 28 ก.ค. 2558 ราคา IPO 2.10 บาท )

ผลประกอบการที่ผ่านมาของ WICE ( ปี 2558- ไตรมาส 1/2563 )

ปี 2558 รายได้รวม 689.48 ล้านบาท กำไรสุทธิ 60.59 ล้านบาท

ปี 2559 รายได้รวม 1,035.64 ล้านบาท กำไรสุทธิ 77.18 ล้านบาท

ปี 2560 รายได้รวม 1,402.33 ล้านบาท กำไรสุทธิ 89.70 ล้านบาท

ปี 2561 รายได้รวม 1,850.12 ล้านบาท กำไรสุทธิ 96.19 ล้านบาท

ปี 2562 รายได้รวม 2,230.88 ล้านบาท กำไรสุทธิ 61.97 ล้านบาท

ไตรมาส 1 ปี 2563 รายได้รวม 656.77 ล้านบาท กำไรสุทธิ 30.27 ล้านบาท

ปี 2563 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมอยู่ที่ 20% หรือเติบโตอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท

ในขณะที่ราคาหุ้นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ราคาหุ้น WICE ปรับตัวขึ้น-ลงตามกลไกตลาด ซึ่งราคาหุ้นเคยสูงสุดที่ 8.20 บาท (19 ก.พ. 58)และราคาหุ้นต่ำสุด 1.17 บาท ( 17 มี.ค. 63)และปัจจุบันราคาหุ้น อยู่ที่ 3.02บาท ( 2 มิ.ย.63)Market Cap อยู่ที่1,968.74 ล้านบาท P/E 24.43 เท่า

บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินหุ้น WICE เป็นหุ้นที่มีการเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมที่หดตัวรุนแรงจากสถานการณ์ไวรัสโควิค-19เห็นได้จากการเติบโตของกำไรสุทธิในไตรมาส 1/63 ที่โตก้าวกระโดดถึง 158.60% และมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 656.62 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 482.97 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 30.27 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 11.65 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น

การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจาก WICE ได้รับอานิสงส์การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หลังสงครามการค้าจีน-สหรัฐคลี่คลาย ส่งผลดีต่อธุรกิจขนส่งทางอากาศ Air Freight ประกอบกับ WICE ได้ลูกค้าใหม่จากจีนและฮ่องกง ท่ามกลางช่วงวิกฤตโควิค-19และ การปรับกลยุทธ์ธุรกิจ Cross border ในการเลือกชนิดสินค้า ขาไป-ขากลับ ให้สอดคล้องกับตู้คอนเทนเนอร์ให้บริการของธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน ( Cross border โดย ETL) ผนวกกับการฟื้นตัวของจีนในเดือน มี.ค. ทำให้ในไตรมาส 1/63ETL พลิกมีกำไรครั้งแรก 10 ล้านบาท จากช่วงเริ่มต้นลงทุนธุรกิจนี้ในปลายปี 61 และมีขาดทุน 48 ล้านบาทในปี 62 (ช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจ)

อีกทั้งการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ 30% ของ WICE (SG) ทำให้ WICE จะได้กำไรส่วนเพิ่มอีก 18 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้คาดการณ์กำไรทั้งปี 63 ถูกปรับขึ้นเป็น 47% โดยมีกำไรสุทธิราว 125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอิง P/E 20 เท่า แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมใหม่ 3.84 บาท คิดเป็นมีอัพไซด์ 27%จากราคาปัจจุบัน ( 2 มิ.ย.63)

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไวส์โลจิสติกส์ (WICE) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร กล่าวว่าช่วงวิกฤตโควิด-19กระทบ Global Supply Chains หลายอุตสาหกรรม ส่งผลให้การขนส่งสินค้าในเอเชียมีปริมาณมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากเศรษฐกิจประเทศจีนส่งสัญญาณฟื้นตัวเร็ว แม้จะเป็นประเทศแรกที่เกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ทางการจีนมีแนวทางบริหารจัดการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อและการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

ล่าสุดหลายอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศจีนเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ WICE สัดส่วนกว่า 40-50% หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19ทำให้มีความต้องการจำนวนมากขึ้น

ขณะที่ไทยเป็นหนึ่งในซัพพลายเชนของจีน เป็นเหตุผลให้ธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในไทยได้รับอานิสงส์ไปด้วย สวนทางกับอีกหลายประเทศที่ยังเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดและเศรษฐกิจที่ถดถอย

นายชูเดช กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน WICE มีบริษัทย่อยที่เป็นเครือข่ายโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมในประเทศสำคัญ ได้แก่ สิงคโปร์, ฮ่องกงและจีน โดยเฉพาะในจีน ครอบคลุมพื้นที่ 3 เมืองการค้าสำคัญ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ,กวางโจว, เชินเจิ้น นับเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกัน แม้ว่าในช่วงที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ สายการบินยกเลิกเป็นจำนวนมาก แต่บริษัทยังสามารถให้บริการขนส่งสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจัดส่งสินค้าทางอากาศในรูปแบบ Air Cargo

นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นขยายการให้บริการโลจิสติกส์ครอบคลุมทุกรูปแบบ ทั้งการขนส่งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าผ่านการทำงานร่วมกันกับเครือข่ายสาขาของ WICE ทั้งหมด ซึ่งในช่วงที่เกิดวิกฤตลูกค้าหันมาใช้บริการขนส่งทางบก Cross-Border Transport Services มากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเป็นการขนส่งลักษณะนี้เป็นแบบประตูสู่ประตู (Door to Door) คือการให้บริการรับจัดการขนส่งตั้งแต่หน้าประตูโรงงานลูกค้าต้นทางเพื่อส่งมอบไปยังหน้าประตูโรงงานลูกค้าปลายทาง อีกทั้งยังใช้ระยะเวลาขนส่งไปถึงที่หมายได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับการขนส่งสินค้าทางทะเล ประกอบกับบริหารจัดการมีปริมาณสินค้าขากลับได้มากขึ้น ส่งผลให้มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปีนี้ บริษัทคาดว่ามีโอกาสเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่20% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท หลังจากผลประกอบการไตรมาสแรกเติบโตได้ก้าวกระโดด ขณะที่แนวโน้มช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลังหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ