> SET > J

04 มิถุนายน 2020 เวลา 08:45 น.

Jมีสิทธิ์เทิร์นอะราวด์ ปลดล็อกธุรกิจเช่าฟื้น

ทันหุ้น – J ผลงานมีสิทธิพลิกกลับมาบวกครึ่งแรกปี 2563 หลังไตรมาส 1 ทำไว้ดี ธุรกิจอสังหามียอดรอโอนอีก ด้าน ซีอีโอ “สุพจน์ สิริกุลภัสสร์” ยิ้มคลายล็อกดาวน์ ดันรายได้ค่าเช่าฟื้นตัว ดีเดย์เปิดห้าง “เดอะแจสอมตะนคร”ช่วง Q3/2563 อัพฐานโกยเงินเพิ่ม


แหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ในครึ่งแรกปี 2563คาดมีโอกาสพลิกเป็นบวกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนราว 17.48 ล้านบาท หลังช่วงไตรมาส 1/2563ตัวเลขงบการเงินรวมสามารถกลับมามีกำไรได้แล้ว ประกอบกับธุรกิจยังมียอดขายที่รอโอน (Backlog) ในส่วนของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ามาเพิ่มเติม นอกเหนือจากรายได้จากธุรกิจให้เช่าทั้งในส่วนของโครงการ "IT Junction" และโครงการการบริหารจัดการพื้นที่ศูนย์การค้าชุมชนภายใต้การดำเนินงานของบริษัท


โค้งแรกงบโตแรง


สำหรับงบการเงินสิ้นไตรมาส 1/2563 ของ J พบว่ามีกำไรสุทธิ 16.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5.03 แสนบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตราว 3,202%โดยในไตรมาส 1/2563บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการลดลง จากช่วงเดียวกันปีก่อนราว 5.7% เพราะรายได้ค่าเช่าปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทมีการปิดสาขา IT Junction ที่มีผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย


นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้อื่นๆ เท่ากับ 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของเงินสนับสนุนทางการตลาด และบริษัทได้ทำสัญญาซื้อขายและโอนคอนโดมิเนียมในโครงการ Newera เพิ่มเติมส่วนต้นทุนการขายและบริหารในไตรมาส 1/2563 นั้นปรับตัวลดลงราว 60.3% ผลมาจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการรายงานงบเงินฉบับที่ 16 เรื่องสัญญาเช่าฉบับใหม่เพิ่มเติม


ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลสัดส่วนรายได้ของ J เดิมในภาวะปกติ แบ่งเป็น ธุรกิจการให้เช่าพื้นที่ในส่วนของโครงการ "IT Junction" ภายในศูนย์การค้าต่างๆ ประมาณ 50% ส่วนที่เหลือจากการบริหารจัดการพื้นที่ศูนย์การค้าชุมชนที่มีอยู่จำนวน 3 แห่ง ภายใต้แบรนด์ "เดอะแจส (The Jas) อาทิ JAS URBAN (ศรีนครินทร์), The JAS (วังหิน), The Jas (รามอินทรา) ซึ่งคิดเป็นพื้นที่เช่ารวมทั้งหมดราว 3.5 หมื่นตารางเมตร ตลอดจนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์


คลายล็อกดาวน์หนุน


นายสุพจน์ สิริกุลภัสสร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ภาครัฐคลายล็อกดาวน์และอนุญาติให้ห้างสรรพสินค้าสามารถกลับมาให้บริการตามปกติได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ถือเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ เพราะช่วยทำให้ธุรกิจเช่าในส่วนของโครงการ "IT Junction" ศูนย์การค้าชุมชนที่มีอยู่จำนวน 3 แห่ง ภายใต้แบรนด์ "เดอะแจส (The Jas)"


ขณะที่โครงการศูนย์ค้าชุมชนแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “The Jas (อมตะนคร)” ขนาดพื้นที่เช่าประมาณ 10,000 ตารางเมตร ซึ่งมีมูลค่าโครงการราว 200 ล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน) และถือเป็นศูนย์การค้าแห่งที่ 4นั้นขณะนี้งานก่อสร้างถือว่าคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว คาดน่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 3/2563ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้น่าจะกลายเป็นอีกปัจจัยช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถขยายฐานลูกค้าในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครและพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดชลบุรีเพิ่มเติมด้วย


นายสุพจน์ กล่าวเสริมว่า สำหรับธุรกิจพัฒนาอสังหารมทรัพย์จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดพบว่า บริษัทมียอดขายที่รอโอน (Backlog) อยู่ที่กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งมาจากโครงการหลัก คือ Newera ซึ่งเป็นอาคารที่พักอาศัยความสูง 8 ชั้น จำนวนยูนิตขาย 177 ห้อง บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอสุคนธสวัสดิ์ 38ถนนสุคนธสวัสดิ์(อยู่ห่างจากถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา-เอกมัย เพียง 200 เมตร) โดยประเมินน่าจะสามารถดำเนินการโอนและรับรู้ได้ทั้งหมดไม่เกินช่วงไตรมาส 4/2563 หรือภายในปีนี้

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X