ทันหุ้น –สู้โควิด –NER เผยโรงานใหม่เริ่มผลิตไตรมาส 3/2563 ราว 70% คาดเดินเครื่องเต็ม 100% ปีหน้า มองธุรกิจยางปีนี้เป็นปีที่ดี ดีมานด์ยางทยอยฟื้นตัวโดยเฉพาะตลาดจีน รับออเดอร์ลูกค้าใหม่ 2 ราย กำลังการผลิตราว 7.2 หมื่นตันต่อปี จ่อบุ๊กรายได้โครงการผลิตก๊าซชีวภาพไตรมาส 2/2563 นี้

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจปีนี้บริษัทมองเชื่อว่าเป็นขาขึ้นของธุรกิจยางแม้ช่วงไตรมาส 1/2563 จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ลูกค้าเลื่อนส่งออเดอร์ไปจำนวน 5 พันตัน แต่เป็นเพียงการเลื่อนการส่งมอบไม่ได้มีการยกเลิกทำให้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ความต้องการใช้ยางขณะนี้ทยอยฟื้นตัวดีต่อเนื่องโดยเฉพาะตลาดจีน ที่โรงงานเริ่มกลับมาผลิตแล้ว จากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายขึ้น อีกทั้งยังมีรายงานของ IRSG หรือองค์การศึกษาเรื่องยางระหว่างประเทศ ระบุว่ายอดจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในประเทศจีน เดือนเมษายน 2563 เพิ่มขึ้น 31.5%และคาดว่าจะแนวโน้มที่ดีในเดือนพฤษภาคม 2563

*ออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันบริษัทยังสัญญาซื้อระยะยาวจากลูกค้าใหญ่ 2 ราย คือ 1. Triangle tyre จำนวน 2.4 หมื่นตันต่อปี โดยเริ่มสัญญาเดือนมิถุนายน 2563-เดือนมิถุนายน 2564 และ2. LLIT จำนวน 4.8 หมื่นตันต่อปี โดยเริ่มสัญญาเดือนกรกฎาคม 2563-เดือนมิถุนายน 2564 รวมจำนวนลูกค้าใหม่ 2 ราย มียอดจำหน่ายเพิ่มเป็น 7.2 หมื่นตันต่อปี และบริษัทก็ยังเดินหน้าในการเจรจาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ส่วนโรงงานใหม่ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก ยางอัดแท่งและยางอัดแท่ง ผสม 172,800 ตัน ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวม 465,600 ตัน โดยในส่วนของโรงงานใหม่บริษัทได้มีการได้ทดลองเดินเครื่องจักรโรงงานผลิตแห่งใหม่ตามแผนที่วางไว้แล้ว คาดผลิตได้ไตรมาส 3/2563โดยปีนี้คาดว่ากำลังการผลิตจะรันได้ราว 70%สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง และคาดว่าจะเดินเครื่องเต็มที่ 100% ในปี 2564 ส่วนโครงการผลิตก๊าซชีวภาพ คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2/2563 นี้ทันที

*คงเป้ารายได้โต 50%

อย่างไรก็ดีเชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2563 จะดีกว่าไตรมาส 1/2563จากออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเหมือนเช่นไตรมาส 1/2563 ที่อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนรุนแรง ทำให้เกิดการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนตามมาตราฐานบัญชี แต่ในด้านผลการดำเนินงานหลักธุรกิจยังเติบโตได้ดี โดยทั้งปีคาดว่ารายได้เติบโต 50% หรือมีรายได้ราว 1.7 หมื่นล้านบาท ส่วนปริมาณขายคาดว่าจะทำได้ราว 3.65 แสนตันต่อปี

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง NER ว่า โดยผลประกอบการอาจจะอ่อนลงในไตรมาส 2-3/2563 จากผลกระทบ COVID-19 รวมถึงช่วงหลังผ่านพ้นช่วงคำสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณเดือนสิงหาคม ซึ่งได้มีการปรับลดกำไรไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการจะฟื้นกลับมาในปลายปีจากการสถานการณ์ COVID-19 ผ่านพ้นจุด Peak ส่งผลให้กำไรปกติในปี 2563 อยู่ที่ 546 ล้านบาท เติบโต 20%

*ชูเป้า 3.10 บาท

ทั้งนี้ราคาเป้าหมายที่ 3.10 บาท อิง PER ที่ 6x (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มยางที่ 13x) โดยมี key catalyst คือ บริษัทยังมีเติบโตต่อเนื่องจากการขยายกำลังผลิต รวมถึงโรงงานของลูกค้าในจีนเริ่มกลับมาเดินการผลิต ขณะที่ความเสี่ยงคือ การฟื้นตัวจาก COVID-19 ล่าช้ากว่าที่คาดไว้