> SET > TRC

04 มิถุนายน 2020 เวลา 09:00 น.

TRCลุ้นรับงานใหม่2.1พันล. แบ็กล็อกแน่นรายได้ตามเป้า

ทันหุ้น - TRC เร่งเครื่องเดินหน้าประมูลงานใหม่กว่า 11,910 ล้านบาท คาดหวังได้รับงานทั้งภาครัฐและเอกชน ไม่น้อยกว่า 80% หรือราว 2,119 ล้านบาท แนวโน้มครึ่งปีหลังงานใหม่เข้ามาอีกมาก อวด Backlog ในมือหนากว่า 8,675 ล้านบาท คงเป้ารายได้ปี 2563แตะ 4,500-4,800ล้านบาท


นายภาสิต ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ หรือ TRC เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา อาจมีผลกระทบต่อธุรกิจอยู่บ้างในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากวัสดุบางรายการที่มีการนำเข้ามาจากประเทศจีน และอิตาลีมีความล่าช้าในการขนส่งทำให้การก่อสร้างบางโครงการชะลอตัวลง รวมถึงการเคอร์ฟิวในระยะแรกมีผลทำให้งานนำสายไฟฟ้าลงดินมีความล่าช้าไปบ้าง แต่ปัจจุบันได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการ และหน่วยงานของภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ทำให้ในสามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติแล้ว


*รุกชิงงาน1.1หมื่นลบ.

โดยประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2563 มองว่าอาจทรงตัว และมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสส 1/2563ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,198.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 963.37 ล้านบาท โดยปัจจัยบวกเป็นผลมาจากราคาวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะเหล็กปรับตัวลดลง ส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนวัสดุที่ลดลงตามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันปัจจัยลบจากวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้ต้นทุนทางบุคลากรสูง เนื่องจากการทำงานอาจทำได้แค่บางช่วง อย่างไรก็ดี ยังต้องจับตารอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป


ทั้งนี้ บริษัทมีงานในมือที่อยู่ระหว่างการดำเนินการและทยอยส่งมอบ (Backlog) ในมือ จำนวน 19 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 8,675 ล้านบาท ประกอบไปด้วยส่วนงานของ TRC คิดเป็น 23.62% จำนวน 5 โครางการ มูลค่าราว 2,049 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 76.38% เป็นงานของบริษัท สหการวิศวกร จำกัด (SKW) ซึ่งเป็นงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ,สะพาน และอาคาร รวม 14โครงการ มูลค่าประมาณ 6,675 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถทยอยรับเป็นรู้รายได้เข้ามาในปี 2563 นี้ ราว 4,000 ล้านบาท


นอกจากนี้ บริษัทยังมีความสนใจเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีการเสนอราคาและรอประกาศผลอยู่ จำนวน 13 โครางการ มูลค่ารวมกันกว่า 11,910 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนของ TRC จำนวน 10 โครงการ มูลค่า 11,252 ล้านบาท และเป็นของ SKW จำนวน 3 โครงการ มูลค่า 658 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งงานทั้งหมดที่บริษัทเข้าร่วมประมูลนั้นมีงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญและคาดหวังจะได้รับงาน (Potential) มูลค่าราว 2,119 ล้านบาท


**ลุ้นโค้ง2คว้างานเพิ่ม

เบื้องต้นคาดว่าในช่วงไตรมาส 2/2563 มีโอกาสได้รับงานมาไม่น้อยกว่า 80% ของงานที่คาดหวังและมีโอกาสได้รับราว 2,119 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นงานโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้รับงานบางส่วนแล้วประมาณ 235 ล้านบาท ทั้งนี้ หากว่าบริษัทได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มตามที่คาดการณ์ไว้จะสนับสนุนให้ปริมาณ Backlog เพิ่มขึ้นแตะ 10,000 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้ สะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต


ขณะเดียวกันจากการขยายธุรกิจสู่การให้บริการจำหน่ายน้ำประปา จังหวัดระยอง เดิมคาดว่าความต้องการใช้น้ำมีเพียง 1,000 หลังคาเรือนเท่านั้น แต่ตัวเลขล่าสุดคาดว่าความต้องการน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกว่า 3,000-4,000 หลังคาเรือน ทั้งนี้คาดว่าสร้างความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นราว 30-35%แม้ว่าการเติบโตอาจไม่หวือหวานักแต่ก็มองว่าจะเข้ามาช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับผลการดำเนินงานของบริษัทได้มากขึ้น


อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาส่งผลทำให้ปัจจุบันบริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมในปี 2563 แตะ 4,500 - 4,800 ล้านบาท จากปี 2562ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,428.23 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 293.28 ล้านบาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X