ทันหุ้น – สู้โควิด –DDD เล็งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 9 โปรดักส์ 16 รายการ กระตุ้นยอดขายครึ่งปีหลัง ดันผลงานพลิกบวก พร้อมจับมือพาร์ทเนอร์เกาหลีผุดผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มช่องทางการขายในต่างประเทศ มองไตรมาส 2/2563 เป็นจุดต่ำสุดของธุรกิจ หลังยอดขายเฒายน-พฤษภาคม ได้รับผลกระบจากโควิด-19

นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2563 ดีกว่าครึ่งปีแรกที่ยังคงมีผลขาดทุนอยู่ อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งหลังปีนี้ผลการดำเนินงานจะพลิกกลับมามีกำไร โดยมีแผนเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 9 ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งหมดกว่า 16 รายการ (SKUs)

โดยเลื่อนกำหนดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหมาจากไตรมาส 2/2563 มาเริ่มในช่วงไตรมา 3/2563 แทน จากทั้งปีที่มีการเปิดตัวทั้งสิ้น 18SKUs แบ่งออกเป็นแบรนด์ SNAILWHITE จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ประกอบไปด้วย 4 SKUs, Prettiiface จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย 6 SKUs, SoS จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย 2 SKUs และ OXECURE จำนวน 3 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย 6 SKUs เป็นต้น เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้มากขึ้น ซึ่งในไตรมาส 1/2563 มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไปแล้ว 2 SKUs

ขณะเดียวกันบริษัทจะยังคงมุ่งเน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดแคมเปญกระตุ้นยอดขายออนไลน์ให้มากขึ้น เพื่อให้สอดคลองไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ในนปัจจุบันส่งผลให้การซื้อ-ขาย ผ่านช่องทางออนไลน์มีความสำคัญอย่างมาก

*ตลาดออนไลน์โตดี

ซึ่งตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ประเทศยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์มีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นกว่า 70-80% แม้ว่ายอดขายจากช่องทางออนไลน์อาจไม่สามารถเข้ามาทดแทนยอดขายช่องทางหลักอย่างโมเดิร์นเทรด การขายสินค้าแบบดั้งเดิม และนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Inbound Tourists) ได้ทั้งหมด แต่ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่คอนข้างดี

พร้อมกันนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรรายใหญ่จากประเทศเกาหลี JMS GLOBAL SOLUTION (ที่ผ่านมาได้เข้าไปลงทุนมีสัดสวนถือหุ้น 40%) เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงช่องทางการขายได้มากขึ้น และสามารถขยายตลาดในประเทศใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้น โดยหากวาสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีการคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นเชื่อว่าจะได้เห็นความชัดเจนของการร่วมมือดังกล่าวในช่วงปลายไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป

ด้านตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศฟิลิปปินส์และจีน ซึ่งเป็นตลาดการส่งออกของบริษัทคาดการณ์ว่าจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน เนื่องจากทางฟิลิปปินส์จะเริ่มปลดล็อคดาวน์ประเทศในช่วงต้นไตรมาส 3/2563 ขณะที่จีนยังคงประเมินสถานการณ์ได้ยาก เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังดูมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก ทำให้ยังคงต้องให้การจับตารอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ทั้งนี้ สักส่วนการส่งออกในปัจจุบันแบ่งออกเป็น ฟิลิปปินส์ 71% ประเทศจีนประมาณ 14% และอื่นๆ 15% เป็นต้น

*ไตรมาส 2/63 เป็นจุดต่ำสุด

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2563 มองว่าจะยังคงมีผลขาดทุนอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2563 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 212.81 ล้านบาท และมีผลขาดทุนกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.86 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายในช่วงเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมายังคงหดตัว และแม้ว่าในเดือนพฤษภาคมจะมีการปลดล็อกดาวน์ไปแล้วแต่ยอดที่เข้ามาก็เป็นเพียงช่วงปลายเดือนเท่านั้น อย่างไรก็ดีคาดการณ์ว่ายอดขายในช่วงเดือนมิถุนายนจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ทำให้มองว่าไตรมาส 2/2563 เป็นจุดต่ำสุดของธุรกิจแล้ว

ขณะที่การลงทุนในกลุ่มบริษัทคิวรอนในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้มีการรับรู้รายได้และกำไรจากการลงทุนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 แล้ว และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้อีกด้วย เพราะผลิตภัณฑ์ Lesasha จะมีการออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องการัดแต่งททรงผมใหม่อีกกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ในช่วงครึ่งหลังปีนี้

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1