> SET >

02 มิถุนายน 2020 เวลา 07:30 น.

วิตกเปลี่ยนม้ากลางศึก ทีมเศรษฐกิจใหม่ไม่ง่าย

ทันหุ้น-สู้โควิด-ประเด็นการเมืองปกคลุม หลังกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐตบเท้าลาออก ชี้เปาเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจของ ดร.สมคิด กลุ่มที่มี ส.ส.ในมือรอเสียบ ด้านนายกชี้เป็นเรื่องปกติ แทงกั๊กปรับ ครม. วงการชี้เป็นการเป็นม้ากลางวิกฤต หวั่นเกิดปัญหา ด้านนักวิเคราะห์ชี้ไม่ใช่ข่าวดี อาจกระทบโรงไฟฟ้าชุมชน แนะเลี่ยงนิคม เลือกหุ้นอิงต่างประเทศ สิ่งของจำเป็น ชู IVL


ภาคเศรษฐกิจระทึก หลังกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นหนังสือลาออก 18 คน ซึ่งมากกว่ากึ่งหนึ่ง ทำให้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพ้นจากตำแหน่งและต้องมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคใหม่


ท่ามกลางกระแสข่าวว่าการปรับโควตารัฐมนตรีใหม่โดยเน้นกลุ่มที่มี ส.ส. อยู่ในมือ ซึ่งจะส่งผลให้ทีมเศรษฐกิจของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รวม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หมดอำนาจ ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะไปนั่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การลาออกของกรรมบริหารพรรคถือเป็นเรื่องภายในของพรรคพลังประชารัฐ และเป็นเป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมืองที่จะมีการปรับคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ตั้งมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ถือว่านานพอสมควรแล้วที่จะพิจารณาเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องของพรรค อย่าเอาตนเองเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะไม่ใช่สมาชิกพรรค ส่วนจะมีผลต่อตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของแต่ละคนจะพิจารณาเอง จะต้องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ไม่มี ยังไม่ตอบ และยังไม่ถึงเวลาที่จะคิดเรื่องนี้


@ห่วงขาดแคลนแม่ทัพมีฝีมือ


ด้านแหล่งข่าวระดับสูงกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยกับ ทันหุ้น ว่า กังวลสถานการณ์ดังกล่าวจะกระทบกับเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญกับวิกฤต เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่ พ.ร.ก.กู้เงิน 1ล้านล้านบาทผ่านสภา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นที่แน่ชัดว่า ต้องการให้ทีมเศรษฐกิจที่นำโดย ดร.สมคิด นายอุตตม นายสนธิรัตน์ หมดอำนาจ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ต้องติดตามว่า ใครจะมาดูแลเศรษฐกิจ เนื่องจากการเปลี่ยนตัวครั้งนี้ เสมือนเป็นการเปลี่ยนม้ากลางศึก ผู้นำเศรษฐกิจคนใหม่มีโอกาสที่จะดีกว่าเดิม เท่าเดิม หรือ แย่กว่าเดิมได้ทั้งนั้น


อย่างไรก็ตามมองว่าผู้ที่จะเข้ามารับหน้าที่แม่ทัพเศรษฐกิจจากนี้จะต้องมีความรู้ในด้านของภาคเศรษฐกิจจริง และ ภาคการเงิน ค่อนข้างมาก เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นทั่วโลก หลายประเทศมีการดำเนินนโยบายอัดฉีด ค่าเงิน ดอกบี้ยติดลบ ดังนั้นต้องเท่าทันทั้งภาคการเงิน และการฟื้นเศรษฐกิจจริงควบคู่กัน ซึ่งผู้ที่มีคุณสมบัติแบบนี้ในประเทศมีไม่มาก ขณะเดียวกันต้องมีการบรรเทาความเดือดร้อนไม่ให้ลุกลามออกไป


และยิ่งผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเป็นแม่ทัพฝ่ายดูแลนโยบายเงินก็กำลังจะหมดวาระและไม่ได้ต่อวาระด้วย หากด้านของนโยบายการคลัง การดำเนินการภาครัฐที่เปลี่ยนแม่ทัพอีก ก็มีความเสี่ยงในการหาผู้กำหนดทิศทางนโยบาย ซึ่งความยากของการแก้ไขเมื่อผสมกับการเล่นการเมืองแบบนี้ อาจจะทำให้ผู้ที่มีความสามารถไม่อยากที่จะเข้ามาเจ็บตัว


ทั้งนี้แนวโยบายของ นายสมคิด แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยปัจจุบันจำเป็นต้องปรับโครงสร้างใหม่ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ต้องเน้นเศรษฐกิจในประเทศ เป็นหลัก สร้างความเข้มแข็งฐานราก และพอเพียง โดยต้องลดการพึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวลง ขณะที่มุมมองด้าน EEC นั้นมองว่า ขณะนี้ต้องเน้นโครงสร้างพื้นฐานก่อน มากกว่าเม็ดเงินการลงทุนทางตรงของต่างชาติ (FDI)


@แก้เกมเลือกหุ้นอิงต่างประเทศ


ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงโอกาสเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจว่า ยังมีคำถามพอสมควรในด้านการเปลี่ยนม้ากลางศึกว่า ใครจะเข้ามาทำหน้าที่ในการดูแลเศรษฐกิจ ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างใด ตราบใดที่ยังไม่เห็นหน้าผู้ที่จะเข้ามากุมเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่อยากให้มีการด่วนสรุป เพราะสิ่งที่คิดว่าไม่ดี อาจจะดีได้เหมือน กรณีที่ทรัมป์เข้ามาเป็นประธานาธิบดี คนก็กลัวจะพัง แต่ก็ยังดีอยู่


แต่ส่วนตัวมองว่า แนวทางการดูแลเศรษฐกิจควรเน้นการออกนโยบายถูกต้องกับสถานการณ์ แม่ทัพเศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องเก่ง แต่ต้องออกให้เหมาะสมกับเวลา ยอมรับว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันผู้ที่จะมานั่งในตำแหน่งขุนคลังต่อไปไม่ง่าย เพราะต้องดูแลธุรกิจ การแก้ปัญหาการว่างงานอย่างไรไม่ให้เศรษฐกิจไทยดิ่ง ขณะที่ในฝั่งของกระทรวงพลังงานนั้นในส่วนของนโยบายหลักเรื่องแผนน้ำมัน การลงทุนของ ปตท. ต่างๆ รวมถึงการใช้ B10-B20 อาจจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในด้านของไฟฟ้า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของแผน PDP เล็กน้อย ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนอาจจะต้องติดตามว่าจะถูกเก็บโครงการหรือไม่


ดังนั้นแนวคิดในการลงทุนช่วงกระแสการเมืองกลับมามีประเด็น อาจจะเปลี่ยนแปลงใน 45 วัน ซึ่งไม่ใช่ข่าวดี ก็ควรจะหันไปเลือกลงทุนหุ้นที่อิงกับต่างประเทศเป็นหลักอย่างปิโตรเคมี น้ำมัน เลือก IVL รวมถึงหุ้นอิงกับการบริโภคที่จำเป็นอย่าง PTG เป็นต้น ส่วนหุ้นนิคมอุตสาหกรรมอาจจะต้องหลีกเลี่ยงไปก่อน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X