จับตาประเด็น สหรัฐ จีน ฮ่องกง และ แถลงการณ์ของ Trump ในการตอบโต้จืน

สัปดาห์ที่ผ่านมาสภาจีนผ่านร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ด้วยคะแนนเสียง 2,878 : 1 ลำดับถัดไปจีนจะใช้เวลาประมาณ 1เดือนเผยรายละเอียดเนื้อหาทั้งหมดก่อนส่งกลับไปยังฮ่องกงเพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ในระหว่างนี้เราแนะนักลงทุนติดตามการตอบโต้จากฝั่งสหรัฐ ล่าสุด Trump ออกมากล่าวว่ารัฐบาลจีนผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับประเทศอังกฤษในปี 1997 พร้อมเตรียมแถลงมาตรการคว่ำบาตรจีน 

ล่าสุดสภาสหรัฐโหวตผ่านร่างกฎหมายคว่ำบาตรดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 413-1 ประกอบกับร่างกฎหมาย Hongkong Human right and Democracy Act ที่ Trump ได้ลงนามในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เปิดทางให้สหรัฐสามารถเข้าแทรกแทรง เรามีมุมมองเชิงลบต่อประเด็นดังกล่าว โดยปัจจุบันคะแนนเสียงความนิยมก่อนการเลือกตั้ง Trump เริ่มปรับลดอย่างต่อเนื่อง (ต่ำกว่า Obama, Bush และ Clinton ในช่วงเวลาเดียวกัน) และต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Biden ประมาณ 5% เรามองว่าสาเหตุหลักเกิดจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก COVID-19 ซึ่งล่าสุดส่งผลให้มีคนสหรัฐตกงานถึง 40ล้านคน เมื่อเทียบกับแรงงานทั้งหมด 165ล้านคน ฉะนั้นเราประเมินว่า Trump จะเลือกทำคะแนนเสียงผ่านทางการเมืองระหว่างประเทศเพื่อกลบฐานเสียงฝั่งเศรษฐกิจ หนึ่งในนั้นคือการคว่ำบาตรจีน ส่งผลให้เรามองว่าความตรึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีนจะเพิ่มมากขึ้นและกดดันบรรยากาศการลงทุนเป็นระยะๆ ในช่วงที่เหลือก่อนการเลือกตั้ง 

ในกรณีเลวร้ายเราประเมินว่าหนึ่งในวิธีตอบโต้จากฝั่งสหรัฐคือการยกเลิกข้อตกลงการค้า หากเป็นเช่นนั้นคาดภาพรวมตลาดหุ้นจะเข้าสู่โหมด Risk –off ทันทีประเมินกรอบ 1,140-1,220จุด ขึ้นอยู่กับรายละเอียด อย่างไรก็ตามเราให้น้ำหนักต่อการคว่ำบาตรด้วยวิธีอื่นๆที่ 1) ไม่กระทบเศรษฐกิจและตลาดหุ้นโดยตรง 2) ไม่กระทบฐานเสียงในประเทศโดยเฉพาะฐานเสียงฝั่ง Republican ฉะนั้นหากตลาดหุ้นปรับตัวลงจากการคว่ำบาตรในเชิงสัญลักษณ์ในสัปดาห์หน้าเรามองเป็นโอกาสในการซื้อสะสมที่กรอบ 1,320จุด +/-

มุมมองตลาดหุ้น จากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นประกอบกับ Valuation ปัจจุบันทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างตลาดหุ้นและพันธบัตร (EYG%) ลดลงเหลือ 4.4% คิดเป็น -0.25SD ย้อนหลัง 10ปี (จากระดับ 6.5-7% ในช่วงที่ผ่านมา) ทำให้เราประเมินว่า Upside SET เริ่มจำกัด ฉะนั้นเราไม่แนะนักลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนณ.ตอนนี้

กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนำกลุ่ม ICT(ADVANC) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัดจาก COVID-19 และหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่, กลุ่ม Non-bank ที่ได้รับผลกระทบจาก Policy Risk และกลุ่มที่อิงกับสหรัฐ/ยุโรป สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำแนะรอดูจำนวนผู้ติดเชื้อว่าจะมีคลื่นลูกที่ 2 หรือไม่

หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์หน้า CPF AMATA

ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตาม

- วันจันทร์ติดตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ของสหรัฐ ( พ.ค.) ตลาดคาด 42.5 และ ดัชนีการจ้างงานภาคการผลิตจากสถาบัน ISM ( พ.ค.) ของสหรัฐ ตลาดคาด 37

- วันอังคารติดตาม จำนวนการอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสหราชอาณาจักร (เม.ย.) ตลาดคาด 60k, ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนี ( พ.ค.) ตลาดคาด 34.4 และ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหภาพยุโรป ( พ.ค.)  โดยตลาดคาด 33.6

- วันพุธติดตาม ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) ( พ.ค.) สหรัฐ ตลาดคาด 44.2 และ การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอดีพี (ADP) ( พ.ค.) สหรัฐ ตลาดคาด -9000K

- วันพฤหัสติดตาม ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการก่อสร้าง (Construction PMI) ( พ.ค.) ของสหราชอาณาจักร ตลาดคาด 22, อัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงินที่ฝากไว้กับธนาคารกลาง (มิ.ย.) การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (มิ.ย.) ของ สหภาพยุโรป ตลาดคาด -0.5%

-  วันศุกร์ติดตาม การจ้างงานนอกภาคการเกษตร ( พ.ค.) ของสหรัฐ ตลาดคาด -7450K และ อัตราการว่างงาน ( พ.ค.)ของสหรัฐ ตลาดคาด 19.8%