ทันหุ้น –สู้โควิด –DEMCO ตัวเต็งซิวงานกฟภ.หลังครม.ไฟเขียวโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่ายระยะที่ 2 กฟภ.วงเงิน 7.7 หมื่นล้านบาท มั่นใจรายได้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน จ่อรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าปีละ 150-160 ล้านบาท ปักธงลุยโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน มั่นใจพลังงานเดินหน้าตามแผน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่ายระยะที่ 2 วงเงินลงทุนรวม 77,334 ล้านบาท ดำเนินงานการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าระบบสายส่ง หรือ 115 เควี ระบบจำหน่ายแรงสูง 22 / 33 เควี และระบบจำหน่ายแรงต่ำในพื้นที่ของกฟภ. 12 เขตทั่วประเทศ ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี (2563-2568) จะเป็นการพัฒนาระบบไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าแห่งใหม่ ทันสมัย สอดคล้องตามมาตรฐานสากลมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ไฟฟ้า

*โอกาสรับงานกฟภ.สูง

นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเข้าร่วมประมูลงานดังกล่าว เพราะเป็นงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จในการเข้ารับงานของ กฟภ.อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนงานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบัน ณ สิ้นเดือนเมษายน 2563 มีงานในมือยู่ที่ 3,114.66 ล้านบาท ประกอบด้วยงาน 3 ประเภทหลักคือ งานวิศวกรรมไฟฟ้ากําลัง งานสื่อสารและอาณัติสัญญาณและงานพลังงานทดแทน ทั้งนี้ งานดังกล่าวจะทยอยส่งมอบตามสัญญาในช่วงปี 2563-2564

“สำหรับโครงการที่ครม. อนุมัติ ล่าสุดก็เป็นแผนงานของ กฟภ.ซึ่งบริษัทก็จะมีการเข้าประมูลงานต่อเนื่อง ก็เชื่อมั่นในศักยภาพ เพราะที่ผ่านมาก็ประสบความรับเร็จรับงานกฟภ.ต่อเนื่อง และงานที่ออกมาก็เป็นงานหลักที่บริษัททำ ก็จะช่วยหนุนงานในมือเพิ่มขึ้น ปีนี้ก็จะเข้าไปประมูลงานของการไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งแต่ละปีก็จะมีงานออกมา นอกจากจากกฟภ.ก็จะมีของ EGAT และกฟน.งานสายไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น แต่ทั้งนี้บริษัทก็อยู่ระหว่างกาจัดทำแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนอีกครั้ง” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

*สยายปีก CLMV

ส่วนภาพรวมธุรกิจปีนี้บริษัทจะพยายามรักษาผลประกอบการให้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน ที่มีรายได้ 3,149 ล้านบาท โดยยอมรับว่าการส่งมอบงานอาจจะมีล่าช้าไปบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่บริษัทก็คาดว่าจะทยอยกลับมาส่งมอบได้ต่อเนื่อง และยังเดินหน้าที่ศึกษาลงทุนในโครงการใหม่ อาทิโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงพลังงาน เนื่องจากโครงการดังกล่าวก็ถือว่าเป็นโครงการสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในชุมชน

นอกจากนี้ยังเตรียมความพร้อมสำหรับการประมูลงานในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ เมียนมา เวียดนาม ลาว กัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานประเภทสถานีไฟฟ้า (Substation) และสายส่ง โดยปัจจุบันการประมูลงานอาจจะล่าช้าแต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะทยอยกลับมา ขณะเดียวกันบริษัทยังมีกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าห้วยบง ซึ่งคาดจะรับรู้ราว 150-160 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น เข้ามาสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทให้เติบโตต่อเนื่อง

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1