ทันหุ้น-สู้โควิด-บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด  ระบุว่า ACE เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสาธารณูปโภคที่จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพียงเล็กน้อย และ ยังจะได้รับประโยชน์จากความพยายามของรัฐบาลในการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและสนับสนุนเกษตรกรผ่านทางโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน (หลักๆ เป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล)

อีกทั้งบริษัทยังจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลงด้วย เนื่องจากหนี้สินส่วนใหญ่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรของ ACE ในระยะ 3 ปีข้างหน้า เมื่อโครงการโรงไฟฟ้าในแผนทุกโครงการเดินเครื่อง แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 5.24 บาท/หุ้น

โรงไฟฟ้าที่ดำเนินงานในปัจจุบันมีผลการดำเนินงานดีต่อเนื่องธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเกิดจากประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าที่ดีขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง (ลดลงสู่ระดับเพียง 1.28 บาท/กก. จาก 1.31 บาท/กก. ในปี 2562) ผู้บริหารคาดว่าต้นทุนจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทมีนโยบายรับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจากเกษตรกรโดยตรงแทนการซื้อจากคนกลาง นอกจากนี้ค่าความร้อนของโรงไฟฟ้าก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ความสามารถในการทำกำไรของโรงไฟฟ้าขยะชุมชน (MSW) ก็เพิ่มขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากค่าธรรมเนียมกำจัดเถ้าที่ลดลงและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น อัตรากำไรน่าจะปรับตัวดีขึ้นอีกหลังจากโครงการหลุมฝังกลบขยะแล้วเสร็จใน 3Q63

บริษัทจะเริ่มเดินเครื่องกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มเติมจากโครงการโซลาร์รูฟท็อปกำลังการผลิต 0.83MW ใน 2Q63 การก่อสร้างโรงไฟฟ้า MSW แห่งที่สองในกระบี่คืบหน้าตามแผนที่วางไว้ โดยมีกำหนดเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ใน 1Q64 ทั้งนี้ ACE ได้ยื่นขอองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งจาก 5MW สู่ 6MW โดยใช้เงินลงทุนเพิ่มเติม 20ลบ. แต่ PPA ตามสัญญายังไม่เปลี่ยนแปลงที่ 4.4MW กำลังการผลิตเพิ่มเติมจะทำให้ ACE สามารถจัดการขยะได้มากขึ้น และสร้างรายได้จากกำจัดขยะได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้ปรับเพิ่มขึ้น >14 ลบ./ปี หรือคิดเป็นระยะเวลาคืนทุนไม่ถึง 2 ปี

บริษัทมีโครงการรอดำเนินการอีกมาก ACE มีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล (SPP hybrid และ VSPP) ที่กำลังเจรจาทำ PPA หรือรออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อขยายระยะเวลาลงนาม PPA กับ กฟผ. ผู้บริหารคาดว่าจะเห็นความคืบหน้ามากขึ้นในเดือนมิ.ย. เมื่อความกังวลเกี่ยวกับโควิด-19 คลี่คลายลง บริษัทยังคงมั่นใจจะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนดที่วางไว้ภายในปี 2565 นอกจากนี้แล้ว ACE ก็พร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน กำลังการผลิต 400MW จากทั้งหมด 700MW สถานการณ์โควิด-19ส่งผลกระทบต่อกรอบเวลาของโครงการเหล่านี้ และ ACE คาดว่ารัฐบาลจะเปิดรับสมัครภายในเดือนก.ค. 2563

ต้นทุนทางการเงินลดลง ต้นทุนทางการเงินของ ACE จะลดลงอีกใน 2Q63 สู่ระดับ <3%หลังจากบริษัทชำระคืนสินเชื่อโครงการที่มีต้นทุนสูงไปแล้วใน 4Q62-1Q63 และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงน่าจะลดลงอีกใน 2H63จากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นของ ACE ยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งจะสนับสนุนให้บริษัทรีไฟแนนซ์หนี้เพิ่มได้ด้วยต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลง บริษัทจะเบิกเงินกู้เพิ่มประมาณ 1 พันลบ. ในปี 2563 เพื่อสนับสนุนแผนลงทุน ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นใน 2H63 แต่ต้นทุนจะอยู่ในระดับต่ำ

แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ที่ 5.24 บาท แม้คาดว่ากำไรปกติจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ ใน 2Q63 เนื่องจากไม่มีกำลังการผลิตเพิ่มเติมจนกว่าจะถึงต้นปี 2564 แต่กำไรสุทธิปี 2563 น่าจะยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก YoY ยังคงราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF สำหรับโรงไฟฟ้าของ ACE ไว้เหมือนเดิม โดยยังไม่ได้รวมโครงการในอนาคตทั้งโรงไฟฟ้าชุมชนและโรงไฟฟ้า MSW เข้ามา หุ้น ACE ซื้อขายที่ PE 10.1 เท่าสำหรับปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่โครงการที่ยืนยันทั้งหมดจะเปิดดำเนินการอย่างเต็มที่ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความล่าช้าในการคืน PPA สำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวลของกฟภ. และการก่อสร้างที่จะชะลอไปจากแผน และมีผลต่อกระแสเงินสด 2) วัตถุดิบลดลงเพราะภัยแล้ง และ 3) ต้นทุนการลงทุนสูงกว่าคาด

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1