ทันหุ้น-สู้โควิด-BGRIM รับเต็มๆสุดในบรรดาโรงไฟฟ้า SPP จากการนำเข้า LNG ชี้ราคาโลกอยู่ 65 – 70บาท/ล้านBTU ขณะที่ต้นทุน PTT สูง 260 บาท/ล้าน BTU มองลูกค้าอุตสาหกรรมกลับ-ภัยแล้งดีขึ้น อัพเป้าแตะ 60 บาท มีลุ้น ปตท. ลดราคาก๊าซส่งผลดี

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า การที่คณะกรรมการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อนุมัติให้ใบอนุญาติ การนำเข้าก๊าซธรรมชาติ (LNG) ให้ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ตามที่เสนอมาขนาด 650,000ตัน/ปี ประเมินว่า BGRIM จะได้ประโยชน์ต่อมากกว่า SPP รายอื่น เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) สูงถึง 25% เทียบกับ GULF ที่ 13%

นอกจากนี้ปี 2565จะเป็นช่วงที่มีโรงไฟฟ้าที่ได้รับการอนุมัติให้สร้างโรงใหม่ทดแทนอีกจำนวน 5โรงกำลังการผลิตรวม 700 MW คิดตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 553MWe คิดเป็นสัดส่วน 15% ของกำลังการผลิตที่มีทั้งหมดในปี 2565มีโอกาสที่ BGRIM จะนำเข้า LNG เพื่อมาใช้กับโรงไฟฟ้าหลัก 5 แห่งนี้ เนื่องจากยังไม่มีสัญญารับซื้อ LNG จากผู้ประกอบการรายใดเพราะเป็นโรงไฟฟ้าที่สร้างใหม่ทดแทน

ซึ่งการนำเข้าเองทำให้ต้นทุนขึ้นอยู่กับราคา LNG ตลาดโลก จากปัจจุบันต้องอิงสูตรการคิดราคาตาม PTT ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดโลกมาก ปัจจุบันราคาตลาดโลกอยู่ที่ราว 65 – 70 บาท/ล้านBTU ขณะที่ต้นทุนจาก PTT อยู่ที่ราว 260 บาท/ล้านBTU ทั้งนี้อาจมีต้นทุนเกี่ยวกับการขนส่งก๊าซเพิ่มเติมบ้างแต่เราประเมินว่าการนำเข้าเองจะประหยัดต้นทุนได้มากกว่า

@ลูกค้ากลับ-ภัยแล้งทุเลา

อย่างไรก็ดีจากการระบาดของ COVID-19 อาจกระทบรายได้จาก IU บ้างซึ่งมีสัดส่วนรายได้ราว 25% ของรายได้ทั้งหมด และ 50%เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์มีการปิดโรงงานไปบ้างในเดือน เมษายน และต้องลดค่าไฟ 3% เป็นเวลา 1ไตรมาสตามนโยบายรัฐบาล แต่ก็มีลูกค้ารายใหม่เชื่อมต่อขอใช้ไฟเข้าระบบในเดือนพฤษภาคม จำนวน 14MW และรอเข้ามาเพิ่มอีกในไตรมาส3/63และ ไตรมาส4/63 อีกไตรมาสละ 8MW เพราะลูกค้าต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านค่าไฟจึงมีการขอซื้อไฟจาก BGRIM ซึ่งต่ำกว่าราคาขายปลีกของการไฟฟ้า และมีลูกค้าบางกลุ่มอย่างกลุ่ม Packaging และ Electronics มีการใช้ไฟเพิ่มขึ้น ช่วยลดผลกระทบ

ล่าสุดลูกค้าที่ชะลอการใช้ไฟไปเริ่มกลับมาใช้ไฟเพิ่มขึ้นแล้ว นอกจากนี้คาดว่า Capacity factor ของโรงไฟฟ้าพลังงงานแสงอาทิตย์ในเวียดนามจะดีขึ้น QoQ เพราะที่ Phu Yen ฝนน้อยกว่า ไตรมาส1/63 ขณะที่ความกังวลด้านภัยแล้งผ่อนคลายลงมากหลังมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ค. ทำให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น

@อัพเป้าแตะ 60บาท

เราปรับสมมติฐานราคาก๊าซธรรมชาติของ BGRIM ตั้งแต่ปี 2565เป็นต้นไปลงจากประมาณการเดิม 8% เป็น 239บาท/ล้านBTU ส่งผลให้กำไรปกติเพิ่มขึ้นจากเดิม 34%เป็น 4,933 ลบ. และราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 50บาท เป็น 60 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ นอกจากนี้มีแผน M&A โรง SPP ใหม่ในประเทศอีก 2 – 3โครงการขนาดรวมประมาณ 300MW เป็น Upside ต่อประมาณการ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง ระบุว่า กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP จะโดดเด่นมากกว่ากลุ่ม IPP จากการกลับมาปิดเมือง ทำให้ลูกค้าอุตสาหกรรมมีอุปสงค์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้กลุ่ม SPP ยังได้อานิสงค์จากราคาก๊าซที่ลดต่ำลง ส่งผลให้ต้นทุนลดลงด้วยซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการในครึ่งปีหลังโดดเด่น นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างพิจารณาโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติเพื่อรองรับการแข่งขันค้าเสรีกิจการก๊าซ จะยิ่งเป็นประโยชน์ต่อกลุ่ม SPP ในระยะยาว เลือก BGRIM และ GPSC เป็น top pick ของกลุ่ม