> SET >

28 พฤษภาคม 2020 เวลา 09:11 น.

โบรกฯ มองคลาย Lockdown หนุน SET เดินหน้าต่อ แกรอบ 1,340-1,360 จุด

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดดัชนีฯ มีโอกาสเดินหน้าต่อ จากความกังวลในเรื่อง Covid-19 ที่ลดลงตามลำดับ แต่อาจมีความผันผวนมากขึ้น จากข่าวที่สหรัฐฯเตรียมแถลงมาตราที่เกี่ยวข้องกับฮ่องกง ในช่วงปลายสัปดาห์นี้  


สถานการณ์ Covid-19 ตัวเลขผู้ติดเชื้อของแต่ละประเทศทยอยลดลง ตลาดมองเป็นบวกจากการทยอยเปิดให้ทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อีกทั้งมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษกิจรอบใหม่ โดยวานนี้ ญีปุ่น ประกาศด้วยวงเงิน $1.1 ล้านล้านเหรียญ  และของ EU มาด้วยตัวเลข $8.25 แสนล้านเหรียญ อย่างไรก็ตาม คืนที่ผ่านมา ตลาดยังไม่ได้ให้น้ำหนักในเรื่องนี้มากนัก  .


ประเด็นของฮ่องกง สหรัฐฯแถลงมาแล้วว่า ฮ่องกงไม่ได้เป็นอิสระในการบริหารประเทศจากจีน (หากจีนพยายามออก กม.ความมั่นคง) สหรัฐฯจะพิจารณาในเรื่องสิทธิประโยชน์ทางการค้าที่เคยให้กับฮ่องกง ทั้งนี้ คาดประธานาธิบดี Trump จะแถลงมาตรการ Sanction หรือมาตรการใดๆต่อฮ่องกง ในวันพรุ่งนี้ เรามองว่าเรื่องนี้ จะทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อลง เพราะไม่มั่นใจว่าจะลุกลามไปถึงขึ้น Trade War หรือไม่ (แต่เราคาดว่าจะจบลงด้วยดีมากกว่า)


ด้านของไทย วันนี้ จะมีการเสนอให้ ศบค.เสนอผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 เพื่อพิจารณาในวันพรุ่งนี้ เป็นข่าวในเชิงบวกต่อตลาด ที่ธุรกิจส่วนใหญ่จะกลับมาเปิดได้ในต้นเดือนหน้า 


event ที่ติดตามในวันนี้ คลังจะพิจารณาลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์  และมีการนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานหุ้น BAM, BAFS, GUNKUL


#Strategy

ตลาดหุ้นจะผันผวนมากขึ้น ดัชนีฯ ขึ้นเกินเป้าสัปดาห์ที่ 1333 จุด ของเราไปแล้ว และน่าจะขึ้นไปเล่นในโซน 1340-1360 จุด  .......  กลยุทธ์ลงทุน เราแนะนำถือหุ้นต่อ  วันนี้ เราคงหุ้นเดิมไว้ทั้งหมด ......... พอร์ตหลัก จะประกอบด้วย CRC (30%) , CK*(20%) และ CENTEL(30%)   .... ส่วนพอร์ต KTBST SET50 (Skynet) ประกอบด้วย  BH (40%), CRC (20%) , GULF(10%) และ MTC (10%)


#Strategy top picks

CRC  (เป้าเชิงกลยุทธ์  38  บาท) – ห้างฯทยอยเปิด ลุ้นต่อมาตรการรอบ 3

- CRC หรือหุ้นห้างสรรพสินค้า เป็นบวกตั้งแต่สถานการณ์ Covid-19 ผ่านจุดวิกฤตมาแล้ว การเปิดห้างฯ เมื่อ 17 พ.ค. เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ และสัปดาห์หน้าบรรดาร้านค้าในห้างน่าจะกลับมาเปิดได้แบบปกติ

- วานนี้ มีข่าว CRC  ประกาศเข้าซื้อหุ้นแฟมิลี่มาร์ท เพิ่มจาก 49% เป็น 100%  หลังพันธมิตรญี่ปุ่นถอนลงทุนไทย จำนวนสาขา ประมาณ 1000 สาขา เป็นการเพิ่มช่องทางขายให้กับธุรกิจค้าปลีกของ CRC

- คาดรายได้จากการขายสินค้าในไทย, เวียดนามและอิตาลี จะเริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เป็นต้นไป


Technical : TCAP, MAJOR


**บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ส่องแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้  คลาย Lockdown ยังหนุน  มีมุมมองเป็นบวกคาด SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,355 - 1,360 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตามความคาดหวังภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้นหลังหลายประเทศเดินหน้าผ่อนคลาย Lockdown อีกทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งล่าสุด EU ประกาศตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูจากไวรัส Covid-19 มูลค่า 7.5 แสนล้านยูโร 


นอกจากนี้ปัจจัยภายในศบค.เตรียมผ่อนคลาย Lockdown เฟส3 ในช่วงสัปดาห์นี้จะเป็นแรงหนุนต่อทิศทางตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะมีแรงขายในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากความกังวลความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-จีนจะส่งผลกระทบต่อ demand การใช้น้ำมัน นอกจากนี้ Valuation SET ที่ค่อนข้างตึงตัวจะเป็นแรงกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว 


กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy 

          - TMB, KKP, TISCO, AH, SAT กระแสข่าวการลดภาษีรถป้ายแดง 50%  

          - MINT, CENTEL, ERW, AOT คาดหวังรัฐออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังคลาย Lockdown  

          - MAJOR SPA  คาดศบค.ผ่อนคลาย Lockdown เฟส 3 ในสัปดาห์นี้ 

          - กลุ่มหุ้นที่ได้เข้าคำนวณ MSCI Thailand Index รอบใหม่ AWC, BAM, KTC มีผล 29 พ.ค. 

          - กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น  (CKP, TASCO, STA, RS, EPG) 


หุ้นแนะนำวันนี้

MINT (ปิด 19.7 ซื้อ/เป้า 25) ได้ Sentiment บวกจากภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่วนธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศก็มีปัจจัยบวกจากข่าวสเปนประกาศเปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวได้ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป ขณะที่เยอรมนีเตรียมยกเลิกคำเตือนการเดินทางไป 31 ประเทศในยุโรปในช่วงกลางเดือน มิ.ย.ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิม ถือเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่อธุรกิจโรงแรมของ MINT ในยุโรปโดยเฉพาะโรงแรม NH Hotel ของ MINT ในสเปน 


CPALL (ปิด 70.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 80) CPALL เป็นหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์มากสุดจากมาตรการเยียวและกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเนื่องจากมีสาขากระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศ นอกจากนี้ราคาหุ้น CPALL ยัง laggard จากหุ้นค้าปลีกอื่นๆในช่วงที่ผ่าน 


ประเด็นสำคัญวันนี้ 

(+) ดาวโจนส์บวกแรง 553 จุด คาดหวังทั่วโลกคลายล็อกดาวน์หนุนเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว : เมื่อคืนที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์บวกแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 553 จุด (+2.2%) ปิดที่ระดับ 25,548 จุด นักลงทุนยังคาดหวังทางบวกว่าการเปิดเศรษฐกิจและการคลายล็อกดาวน์จะทำให้เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว โดยสหรัฐเปิดเศรษฐกิจ (Reopen) ครบทั้ง 50 รัฐและเตรียมอนุญาติให้สวนสนุก รวมถึงกิจกรรมกีฬาต่างกลับมาดำเนินการได้ตั้งแต่วันศุกร์, อังกฤษเตรียมเปิดห้างสรรพสินค้าและธุรกิจบางส่วนในวันที่ 1 มิ.ย. และเยอรมนีเตรียมยกเลิกคำเตือนการเดินทางไปยัง 31 ประเทศในยุโรปในช่วงกลางเดือน มิ.ย.นี้ (เร็วกว่าแผนเดิม) ปัจจัยเหล่านี้หนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวกลับมาเพิ่มขึ้น อาทิ สายการบิน และ เดินเรือ 


(-) น้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.54$/bbl สวนทางกับดัชนีดาวโจนส์ กังวลรัสเซียอาจจะยกเลิกมาตรการลดกำลังการผลิตหลังสิ้นสุดมาตรการเฟสแรกในเดือน มิ.ย. : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 32.81 ดอลลาร์/บาร์เรล สวนทางกับดัชนีดาวโจนส์ที่เพิ่มขึ้นแรง เนื่องจากตลาดมีปัจจัยลบเฉพาะตัว โดยล่าสุดมีกระแสข่าวว่ารัสเซียอาจจะยกเลิกมาตรการลดกำลังการผลิตหลังสิ้นสุดมาตรการเฟสแรกในเดือน มิ.ย. โดย เนื่องจากเห็นว่าราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัวแล้ว ทั้งนี้ตามข้อตกลงชองกลุ่ม OPEC+ เมื่อเดือน เม.ย. มีมติลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน มีผล 1 พ.ค.ถึงสิ้นเดือนมิ.ย.  จากนั้นจะปรับลดกำลังการผลิต  8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่ ก.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2020 และจะปรับลด 6 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค. 2021 ไปจนถึงเดือนเม.ย. 2020


(-) วันนี้ติดตามการประชุมสภาสามัญชนของจีน ต่อกรณีการออกร่างกฏหมายควบคุมการประท้วงในฮ่องกง ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ : จีนเริ่มประชุมสภาสามัญชนฯ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.และจะสิ้นสุดการประชุมในวันที่ 28 พ.ค.นี้ ซึ่งทั่วโลกกำลังให้ความสนใจต่อประเด็นการผ่านร่างกฏหมายความมั่นคงเพื่อควบคุมการประท้วงในฮ่องกงว่าจีนจะเดินหน้าออกกฏหมายดังกล่าวหรือไม่ หากจีนยังเดินหน้าต่อจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐตึงเครียดมากขึ้น เนื่องจากสหรัฐออกมาตำหนิและขู่จีนอยู่บ่อยครั้งว่าสหรัฐจะทำการลงโทษจีนอย่างรุนแรงหากจีนผ่านกฏหมายฉบับดังกล่าว โดยล่าสุด นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรี ต่างประเทศของสหรัฐออกมาระบุว่าฮ่องกงไม่เหลืออำนาจในการปกครองตนเองอีกแล้วเหมือนเป็นสัญญาณลบที่บ่งบอกว่าจีนกำลังจะผ่านกฏหมายความมั่นคงเพื่อควบคุมการประท้วงในฮ่องกงในวันนี้ 


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X