> mai > TPCH

26 พฤษภาคม 2020 เวลา 09:30 น.

โบรกสแกนTPCH เคาะกำไรปีนี้573ล. เป้าหมาย14.90บ.

ทันหุ้น - สู้โควิด –โบรกส่องกล้อง TPCH ชี้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/63 ทรงตัว ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/63 – จับตาการ COD จะล่าช้าออกไปอีกหรือไม่ขณะที่กำไรถูกปรับลง 35% เหลือ 573 ล้านบาท แต่ยังขยายตัวสูง 59% จากกำลังการผลิตใหม่รวม มีขนาดใหญ่กว่าเท่าตัวของกำลังการผลิตปัจจุบันแนะ "ซื้อ" เคาะราคา14.90บาท


บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึงบริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)หรือ TPCHว่า TPCH รายงานกำไรสุทธิ 86 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้าและ เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแม้ว่ารายได้จะชะลอตัวลง 4% จากไตรมาสก่อนหน้าส่วนใหญ่เกิดจากการผิดบำรุงรักษาแบบอยู่ในแผน และนอกแผนที่โรงไฟฟ้า TSG 3 วัน, PGP 10วัน และ SGP 12 วัน แต่ทว่าจากกลยุทธ์ในการเริ่มเดินเครื่องด้วยตนเอง ลดการ outsourcing ลง ทำให้ต้นทุนว่าจ้างลดลงจาก 78% ของต้นทุน เป็น 73%ของต้นทุนรวม


ปั๊มมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น


ขณะที่ต้นทุนอื่นๆคุมได้ จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมปรับตัวดีขึ้นจาก 44.8%ในปีก่อน เป็น 45.2% ในปีนี้ ขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลง 8%จากการคืนหนี้ และอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง อย่างไรก็ดีในแง่พัฒนาการถือว่าผิดหวังเนื่องจากโรงไฟฟ้า 4แห่ง (รวมกำลังการผลิตตามสัญญา 45.7MW vs กำลังการผลิตปัจจุบันที่จ่ายไฟไปแล้ว 52.8MW) ยังไม่สามารถเริ่มจ่ายไฟฟ้าได้ตามแผน โดยบริษัทเผยว่า ปัญหา COVID-19ทำให้กระบวนการทดสอบระบบเพื่อเตรียมความพร้อมในการจ่ายไฟล่าช้าออกไป (test & commissioning process)


หากการ COD โรงไฟฟ้าทั้ง 4ยังล่าช้าออกไปเกินกว่าไตรมาส 2/63 จะส่งผลให้ประมาณการของเราสูงเกินไป และต้องปรับประมาณการกำไรลง แต่ด้วยฐานกำไรที่สม่ำเสมอจากโรงไฟฟ้า 52.8MW ในปัจจุบัน ในกรณีเลวร้ายที่สุด กำไรสุทธิก็จะยังให้ภาพทรงตัว QoQและ YoY ได้


จากความล่าช้าในการ COD ไปกว่าประมาณการแล้ว 1ไตรมาส จึงปรับสมมติฐานจำนวนวันขายไฟฟ้าลง 85วัน สำหรับโรงไฟฟ้าทั้ง 4 ในปีนี้ ทำให้คาดการณ์กำไรถูกปรับลง 35%เหลือ 573 ลบ. แต่ก็ยังขยายตัวสูง +59% YoY เนื่องจากกำลังการผลิตใหม่รวม มีขนาดใหญ่กว่าเท่าตัวของกำลังการผลิตปัจจุบัน ในแง่ valuation เรา roll-over ไปใช้ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2563จะอยู่ที่ 14.90 บาท/ หุ้น (อิง SOTP-DCF base) ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E เพียง 7.5เท่า ขณะที่กำไรยังคาดเติบโตแรง เราคงคำแนะนำ "ซื้อ"


จับตา COD ล่าช้า


การล่าช้าของการเริ่มจ่ายไฟฟ้า (COD) จะส่งผลต่อประมาณการกำไรในปี 2563อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ภาวะภัยแล้ง จะส่งผลต่อกำไรมากขึ้นต่อตัวบริษัท เนื่องจากบริษัทเริ่มหันมาใช้กลยุทธ์เดินเครื่องจักรด้วยตนเองแทนการว่าจ้าง (Outsourcing) บ้างแล้ว

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X