เงินล้นดันแห่ซื้ออสังหา ดอกเบี้ยต่ำ-ปันผลจูงใจ

ทันหุ้น – สู่โควิด – ไขปริศนาอสังหาริมทรัพย์ทะยานแรง ผู้ประกอบการเห็นพ้อง ดอกเบี้ยทรงตัวระดับต่ำ ราคาอสังหาฯ ถูก ดูดนักลงทุนผันเงินลงทุนอสังหาฯ มั่นใจครึ่งหลังทำผลงานได้ดีกว่าครึ่งแรก จับตารัฐทยอยผ่อนคลายมาตรการ-ประเมินผลกระทบก่อนพิจารณาเปิดโครงการใหม่ ด้านนักวิเคราะห์ชี้อสังหาให้ยีลด์ปันผลสูงจูงใจ

หุ้นอสังหาริมทรัพย์ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างแรง โดยมี 2 บริษัทที่ชนเพดานซิลลิ่ง 15% คือ ORI และ LPN ท่ามกลางความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแวลู บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PSHระบุว่าการที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ เป็นปัจจัยหนุนให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านระดับกลาง – บนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ตามกรอบระยะเวลา สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

ทั้งนี้ ยังคาดการณ์ว่ายอดจอง-ยอดโอนโครงการจะทยอยฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี เนื่องจากกลุ่มพฤกษาสามารถบริหารโครงการให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์ ทั้งโครงการแนวราบ – คอนโดมิเนียม อีกทั้งยังจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังคาดหวังนักลงทุนจากต่างประเทศที่จะทยอยเข้ามาลงทุนในไทย และต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยระหว่างดำเนินธุรกิจ

“จำนวนลูกค้าเริ่มเดินทางเข้าไปชมตัวอย่างในโครงการต่างๆ ใกล้จะเหมือนปกติแล้ว คาดว่ายอดขาย-โอนในช่วงครึ่งหลังของปีจะดีกว่าช่วงครึ่งแรก และเราจะยังคงนโยบายการจ่ายเงินปันผล เพราะทั้งกระแสเงินสด และการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพทำให้เรายังมีสภาพคล่องเพียงพอ”

ลุ้นกนง.ลดดอกเบี้ยอีกครั้ง

ดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN คาดการณ์ คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศลงได้อีก 1 ครั้ง ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จากปัจจุบันที่ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0.50% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศให้มีความต่อเนื่อง ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับต่ำถือเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนบางส่วน พิจารณานำเงินเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงในตลาดทุนมากขึ้น เนื่องจากได้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในอัตราที่สูงกว่า

ในส่วนของ ANANมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนทั้งสิ้น 5 โครงการซึ่งจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป เบื้องต้นบริษัทจึงยังคงเป้ายอดขายทั้งปี 2563 ที่ 2 หมื่นล้านบาท และยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งปี 2563 ที่ 2.2 หมื่ล้านบาท โดยจะพิจารณาปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน โดยเฉพาะการเปิดโครงการ 1 โครงการช่วงปลายไตรมาส 2/2563 หรือต้นไตรมาส 3/2563 อีกครั้งหลังจากรัฐบาลประกาศยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ซึ่งจะประเมินจากสภาพวะทางเศรษฐกิจเป็นหลัก

“เรามั่นใจว่าเรามี Backlogในมือเพียงพอที่จะสร้างยอดขายทั้งปีนี้ของเรา และค่อนข้างมั่นใจว่าการโอนจะเป็นไปตามเป้า เพราะจะเริ่มทยอยโอนในช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้ ดังนั้นแม้ว่าเราจะชะลอการเปิดโครงการก็จะไม่กระทบ Backlog ของเราอย่างแน่นอน”

มั่นใจยอดขายตามเป้า

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORIระบุ หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ส่งผลให้ลูกค้าเดินทางมาชมโครงการเพิ่มขึ้นประมาณ 80%ซึ่งเข้าใกล้ช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีความมั่นใจว่า บริษัทจะมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ ทั้งรายได้รวมที่ 16,000 ล้านบาท, และยอดขาย 21,500 ล้านบาท รวมถึงการเปิดโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน

ส่วนกรณีที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ ถือเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนบางส่วนหันมาสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ทั้งในลักษณะการปล่อยเช่า และซื้อไว้ให้กับบุตร-หลานที่ต้องเดินทางเข้ามาศึกษาต่อ

ปันผลสูง

ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สัญญาณการปรับตัวขึ้นของอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีปันผลสูงจูงใจ ทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาสู่อสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ขณะเดียวกันด้วยสภาพคล่องในตลาดที่มีอยู่สูง มีบางส่วนที่ไปเลือกลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่ราคาลดลงมาจนมียีลด์ที่จูงใจในการลงทุน แต่ก็จะต้องติดตามอีกวันว่าจะไปได้อีกแค่ไหน