ทันหุ้น-สู้โควิด-BEAUTY รายได้เริ่มกลับ ชี้ลูกค้าเริ่มกลับมาช็อปสินค้าร้านบิวตี้ในห้าง 30-50% แต่ยังต้องประเมินต่อ รับส่วนใหญ่ตั้งใจซื้อมากกว่า ได้รับแรงกระตุ้น เตรียมเดินหน้ากลยุทธ์จูงใจ ใช้ออฟไลน์ออนไลน์ประสาน ชี้ออนไลน์พุ่ง 200% ซื้อสินค้าเป็นเซ็ต เห็นลางดีQ4หลังจีนเริ่มบุ๊กตั๋วเข้าไทย

ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ BEAUTY เปิดเผยว่า การกลับมาเปิดร้านบิวตี้ช็อปในห้างสรรพสินค้า ช่วงการปลดล็อกดาวน์เฟส 2 ที่ผ่านมามีลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าที่บิวตี้ช็อปราว 30-50% โดยวันธรรมดาก็จะมีลูกค้าเข้า 30% ส่วนวันหยุดมีลูกค้าเข้าร้าน 50% แต่ก็นับว่าบริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นจากเดือนเมษายนที่ถูกล็อกดาวน์ทั้งหมดพอสมควร เพราะขณะนั้นขายได้แต่ในออนไลน์ อย่างไรก็ตามยังต้องใช้ระยะเวลารอประเมินอีกซักพักว่าการกลับมาซื้อสินค้าของผู้บริโภคจะเป็นเช่นไร

@ออนไลน์พุ่ง 200%

ทั้งนี้เบื้องต้นพบว่าพฤติกรรมของลูกค้าที่กลับมาซื้อสินค้าในร้านบิวตี้ช็อปนั้นหลังปลดล็อคดาวน์เฟส 2  เป็นไปในลักษณะตั้งใจมาซื้อสินค้ามากกว่าการใช้อารมณ์ในการซื้อสินค้าหรือได้รับแรงการกระตุ้นจากสาขา ดังนั้นบริษัทจึงจำเป็นต้องปรับแนวทางเพิ่มเติมในด้านของการตลาด การโปรโมชั่นและจะมีการเสริมด้านออนไลน์เพื่อช่วยสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้ ซึ่งจะเป็นสูตรผสมผสานกันระหว่าง ONLINE และ OFFLINE หรือ OTO

ดร.พีรพงษ์ ระบุด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดขายออนไลน์เติบโตเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากถึง 200% ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากฐานที่ต่ำ และยังสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ และออนไลน์ยังนิยมการซื้อเป็นชุดแพ็คเก็จซึ่งมีความคุ้มค่า ทำให้บริษัทขายสินค้าได้มากขึ้น ดังนั้นจากนี้บริษัทจะเข้าไปพิจารณาด้าน Product mix ใหม่ เพื่อให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในส่วนร้านค้า และ ออนไลน์

@เห็นลางฟื้น Q4

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการนั้นเชื่อว่า ไตรมาส 2 และ 3 น่าจะยังซบเซา คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงปลายไตรมาส3 และมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นปกติในช่วงไตรมาส 4 เนื่องจากขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจีนได้บุ๊คกิ้งเข้ามาท่องเที่ยวในไทยพอสมควรในช่วงไตรมาส 4 อย่างไรก็ดียังไม่สามารถคาดหวังได้มาก เนื่องจากยังไม่ทราบว่าสถานการณ์ท้ายที่สุดจะระบาดอีกหรือไม่

“ตอนนี้เราเหมือนปิดตาสู้ เราไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร จะหายไป มีวัคซีน หรือ กลับมาระบาดอีกรอบ ดังนั้นสิ่งที่บริษัทจะต้องดำเนินการคือการปรับไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่ง บิวตี้ มีกลยุทธ์ในการผสมผสาน ทั้งออฟไลน์ และ ออนไลน์ ขณะที่การเปิดร้านมาพนักงานก็ยังมีการขายออนไลน์อยู่ ทำให้ออนไลน์ตอนนี้เติบโตค่อนข้างมากถึง 200%ไตรมาส2-3 อาจจะยังลุ่มๆ ดอนๆ แต่ไตรมาส 4 ตอนนี้เราเชื่อว่าจะดี เพราะมียอดบุ๊คกิ้งของนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาแล้ว”

ส่วนยอดขายสินค้าในประเทศจีนนั้นหลังจากการปลดล็อกดาวน์ 100% ก็มีการกลับมาซื้อบ้างราว 30% แต่เนื่องจากที่ผ่านมาพันธมิตรได้มีการสต็อกสินค้าไว้ ทำให้ในช่วงนี้เป็นช่วงระบายสินค้า โดยมีคำสั่งซื้อเข้ามาที่บริษัทเพิ่มเติมบ้างราว 20%