> SET > BTS

22 พฤษภาคม 2020 เวลา 08:00 น.

อีอีซีเซ็นอู่ตะเภามิ.ย.นี้ BTS-STECพร้อมลุยงาน

ทันหุ้น – สู้โควิด – บอร์ดอีอีซี( EEC)  รับร่างสัญญาร่วมทุนสนามบินอู่ตะเภา ชงเข้าครม. คาดนัดกลุ่ม BBS เซ็นสัญญามิถุนายนนี้ BTS-STEC ประสานเสียงพร้อมเริ่มงาน มั่นใจประสบการณ์ก่อสร้าง-ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ด้านนักวิเคราะห์ชี้กลุ่มนิคมฯ-รับเหมารับอานิสงส์ ชู AMATA-SEAFCO เด่น


ดร. คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (เลขาฯ EEC) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบร่างสัญญาร่วมทุนในกิจการของรัฐ (PPP) โครงการเมือกการบินตะวันออก และสนามบินอู่ตะเภา ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีข้อสังเกต และเสนอแนะ โดยขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการนโยบาย EEC เตรียมเสนอเข้าสู่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อพิจารณาอนุมัติ ซึ่งจะสามารถกำหนดวันลงนามสัญญากับกลุ่มกิจการร่วมค้า BBS (BTS-BA-STEC) คาดว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้


ขณะที่มั่นใจว่า อุตสาหกรรมการบินโลกจะฟื้นตัวจากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สู่ระดับปกติ ณ ปี 2561 ภายใน 1 ปีครึ่ง ก่อนที่การพัฒนาโครงการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 ส่วนการเดินทางของนักท่องเที่ยวจะกลับสู่ภาวะปกติใน 2 ปีทั้งนี้หวังให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินกรุงเทพแห่งที่ 3


*STEC ลุยงานก่อสร้าง


นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโนไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เปิดเผยว่า กลุ่ม BBS มีการเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินงานโครงการดังกล่าวมาตลอด ในส่วนของงานก่อสร้าง STEC จะเป็นผู้รับผิดชอบ ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามกรอบ ข้อกำหนดของคณะกรรมการฯ รวมถึงผู้รับเหมารายอื่นได้อย่างราบรื่น


ขณะที่ยืนยันว่า STEC รวมถึงกลุ่มพันธมิตรร่วมทุนมีสภาพคล่องที่จะดำเนินการโครงการนี้จนสำเร็จได้อย่างแน่นอน โดยทั้ง STEC และกลุ่มพันธมิตร มีการศึกษาและทำ Financial Model อย่างรัดกุมตั้งแต่เข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าว


*BTS พร้อมลงนาม


นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า หลังลงนามสัญญาแล้ว กลุ่ม BBS จะดำเนินโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯในระยะแรก (เฟส1) ได้แก่ งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารที่รองรับผู้โดยสารได้ 16 ล้านคนต่อปี รวมถึงระบบเชื่อมต่อภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 3 ปี เบื้องต้นประมาณการงบประมาณการลงทุนไว้ราว 4 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้จะเป็นการพัฒนาเมืองการบิน ซึ่งเอกชนสามารถพิจารณาดำเนินการได้เอง


ทั้งนี้ ตามกำหนดการ โครงการเฟส 1 จะเปิดบริการส่วนแรกในปีที่ 3 ซึ่งกลุ่ม BBS จะเริ่มส่งผลตอบแทนให้รัฐ โดยวงเงินที่เสนอผลตอบแทนให้รัฐราว 3 แสนล้านบาท (NPV) จะจ่ายให้รัฐภายใน 50 ปีหรือตามระยะเวลาสัมปทาน


กิจการร่วมค้า BBS เป็นการร่วมทุนระหว่าง BTS ถือหุ้น 35%, BA ถือหุ้น 45% และ STEC ถือหุ้น 20%


*นิคมฯ-รับเหมารับอานิสงส์


นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุ หุ้นที่ได้รับอานิสงส์โครงการดังกล่าว นอกจาก BTS, BA, และ STEC ในฐานะกลุ่มผู้ที่จะได้รับสัมปทาน 50 ปี ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” BTS เป้าหมาย 13.80 บาท, STEC เป้าหมาย 21.80 บาท แล้วยังจะมีกลุ่มรับเหมาฐานราก แนะนำ “ซื้อ” SEAFCO เป้าหมาย 7.80 บาท


และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะได้รับประโยชน์ทางอ้อมจากระบบสาธารณูปโภค และการขนส่ง หนุนให้การเดินทางของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ ระบบโลจิสติกที่จะได้รับการพัฒนาทั้งทางอากาศ, ทางบก, ระบบราง, และทางน้ำอย่างครบวงจร อีกทั้งจะมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายที่ทันสมัยรองรับระบบ AI และเทคโนโลยีด้านต่างๆ อย่างครบครัน ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ AMATA เป้าหมาย 18 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X