> SET > PTTEP

21 พฤษภาคม 2020 เวลา 10:09 น.

PTTEPดีมานด์ฟื้นดันยอด ย้ำรักษาEBITDAระดับ70%

ทันหุ้น –สู้โควิด- PTTEP ชี้ราคาน้ำมันไตรมาส 2/2563 ถึงจุดต่ำสุด ประเมินทั้งปีราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ 36-37 ดออลาร์ต่อบาร์เรล หลังวิกฤตโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวดีขึ้น ประเมินปริมาณขายในไตรมาส 2/2563 ไว้ที่ 3.49 แสนบาร์เรลต่อวัน พร้อมประเมิน EBITDA Margin ทั้งปี 2563 อยู่ระดับ 65-70% ลุยซื้อกิจการในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้


นางชนมาศ ศาสนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ส่งผลทำให้ความต้องการใช้พลังงานในประเทศลดลงเป็นอย่างมาก บริษัทจึงคาดการณ์ปริมาณการขายปิโตรเลียมในช่วงไตรมาส 2/2563อยู่ที่เฉลี่ย 349,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน


*รักษา EBITDA ที่ 65-70%

ทั้งนี้คาดเฉลี่ยทั้งปี 2563 อยู่ที่ 362,000บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ลดลงประมาณ 7%จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 391,000บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ทำให้ประเมินว่า EBITDA Margin ทั้งปี 2563 จะอยู่ที่ระดับ 65-70% ปรับตัวลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 70-75% จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดีด้วยราคาก๊าซที่มีความผันผวนต่ำกว่าทำให้ช่วยสามารถพยุง EBITDA Margin ไว้ได้


เบื้องต้นบริษัทคาดการณ์ราคาน้ำมันทั้งปี 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับราคา 36-37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มผ่อนคลายลง สหรัฐฯออกมาส่งสัญญาบวกเกี่ยวกับเรื่องการค้นพบวัคซีนป้องกัน ทั้งนี้ ยังคงต้อจับตาดูการทำข้อตกลงของ OPEC, OPEC+ (โอเปกพลัส) และ NON-OPEC ในการปรับลดกำลังการผลิต แต่มองว่าราคาน้ำมันในช่วงไตรมาส 2/2563 จะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว และราคาน้ำมันน่าจะปรับทยอยปรับตัวดีขึ้นได้ในช่วงไตรมาส 3/2563 และไตรมาส 4/2563 เป็นต้นไป


ขณะที่ราคาขายก๊าซธรรมชาติในช่วงไตรมาส 2/2563 ประเมินว่าจะอยู่ที่ระดับ 6.2ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน และคาดว่าทั้งปี 2563 ราคาขายก๊าซธรรมชาติทั้งปี 2563 จะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับราคา 5.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู อย่างไรก็ดี บริษัทมีผลิตภัณฑ์หลักสัดส่วนกว่า 70% เป็นก๊าซธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มีการกำหนดปริมาณรับซื้อขั้นต่ำไว้แล้ว และกำหนดราคาขายในหลายโครงการกับคู่สัญญาไว้แล้ว โดยโครงสร้างราคาขายก๊าซธรรมชาติของบริษัทผูกกับราคาน้ำมันส่วนหนึ่งและย้อนหลังประมาณ 6-24 เดือน ทำให้คาดว่าราคาจะมีการปรับตัวอีกครั้งเมื่อมีการทำสัญญาใหม่ หรือในช่วงไตรมาส 4/2563


*พลิกโอกาสลงทุน

นอกจากนี้ สถานะทางการเงินของบริษัทยังมีความแข็งแกร่ง โดยในปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดในมือประมาณ 3,200ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ด้วยภาวะสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้มีโอกาสในการเข้าซื้อกิจการจากกลุ่มบริษัทที่มีปัญหาด้านการเงิน และมุ่งเน้นลงทุนในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก หรือกลุ่มประเทศที่บริษัทมีฐานการผลิตอยู่แล้ว เช่นโอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น


ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับลดเงินลงทุนในปีนี้ลง 10-15% จากเดิมที่คาดจะใช้เงิน 4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยชะลอการลงทุนในแหล่งที่มีความล่าช้าของการขุดเจาะ แต่อย่างไรก็ตามโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน จะเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ในปี 2567 แม้การแพร่ระบาดของโควิดอาจจะทำให้ล่าช้ากว่าแผน อีกทั้งคาดว่าในปี 2564 บริษัทจะสรุปแผนการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติลัง เลอบาห์-1RDR2 (Lang Lebah-1RDR2 )อซึ่งเป็นหลุมสำรวจแรกของโครงการซาราวัก SK410B ที่ประเทศมาเลเซีย


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก
https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก
https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก
https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก
https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก
https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก
https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X