SAWAD รายานกำไรสุทธิ 1Q63 ที่ 1 พันล้านบาท (-6%QoQ, +22%YoY) มากกว่าที่เราคาด จากรายได้ที่เติบโตมากกว่าคาดจากการขยายตัวของพอร์ทลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้น17.8%YoY ณ สิ้นงวด 1Q63 ที่ระดับ 4.02 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้หลังการเปลี่ยนการใช้มาตรฐานบัญชีเป็น TFRS9 ส่งผลให้มี NPL ratio อยู่ที่ 4.99% (หากใช้มาตรฐานเดิมจะลดลงจาก 1Q62 ที่3.96% สู่ 3.82%) รวมถึงการตั้ง ECL ที่เพิ่มขึ้นเป็น 194 ล้านบาท (หากใช้มาตรฐานเดิมจะอยู่ที่ 140 ล้านบาทใน 1Q63 และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 60 ล้านบาท) มี Coverage ratio เท่ากับ 30.1% อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ

แนวโน้ม 2Q63 ผลประกอบการอ่อนตัวลง ขณะที่ NPL เพิ่มขึ้น
เราคาดว่าในช่วง 2Q63 SAWAD จะได้รับผลกระทบที่ชัดเจนจากการแพร่ระบาด covid-19 ซึ่งเป็นผลให้ NPL มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีการช่วยเหลือลูกหนี้ในการลดชำระค่างวดลง 30% แต่อย่างไรก็ดีผลกระทบหลักจะอยู่ในโซนกรุงเทพและปริมณฑล แต่ลูกค้าส่วนใหญ๋จะอยู่ในต่างจังหวัดมากกว่า สาขาของบริษัทยังคงเปิดได้ตามปกติ แม้ว่าอาจจะต้องปิดทำการเร็วบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นผลกระทบอะไร ผู้บริหารจึงยังคงแผนเปิดสาขาใหม่ 300-400 สาขา จากปีก่อนที่มีสาขาทั้งหมด 4,000 สาขา และตั้งเป้าพอร์ทสินเชื่อปีนี้ขยายตัว 20-30% ซึ่งเราคาดว่าจะขยายตัวในช่วงขอบล่างของเป้าที่ระดับ 20% หากมีการปลดล็อคดาวน์ได้เร็ว ขณะที่ยังคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีที่ 4 พันล้านบาท ขยายตัว 3%YoY

เราแนะนำ“ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมาย60.00 บาท จากทิศทางแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำและมีโอกาสที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในปีนี้ รวมถึงการใกล้ผ่านจุดต่ำสุดของผลประกอบการใน 2Q63 ไปแล้ว พร้อมฟื้นตัวในช่วง 2H63

แนะนำ “เคาะ” ครับ ด้านปัจจัยเทคนิค แท่งเทียนแกว่งตัวหรือพักตัวยืนกรอบแนวรับ 53.50-53.00 ได้อย่างมีนัยสำคัญ(แกว่งตัวยืนกลุ่มSMA) และกลับตัวขึ้นด้วยแท่งเทียนสีขาวยาวผ่านยืน Neck Line 55.25ขึ้นมาเป็นBuy Sig. สอดคล้องกับIndicatorที่ตัดค่าสัญญาณตัวเองขึ้นมา ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมีโอกาสปิดGapแนวต้าน

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่มเมื่อทดสอบผ่าน 57.00ได้มั่นคงเป็นBuy

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 55.25/54.00 ไม่ควรต่ำกว่า