ทันหุ้น-สู้โควิด- คลัง รับ ปล่อย THAI ล้มเป็นหนึ่งในทางเลือก รัฐบาลจ่อสูญเสียหนักไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท KTB ต้องตั้งสำรองหนี้ก้อนโต พร้อมหั่นหนี้ให้ด้วย ลือสะพัดมีแววเปิดทางต่างชาติฮุบ ทั้งสิงค์โปรแอร์ไลน์ และ แอร์เอเชีย พันธมิตร AAV เหตุTHAIมีสล็อตมาก แนะหาพันธมิตรเข้าซื้อร่วมทุนกิจการต่อลมหายใจ

กระแสการปล่อยข่าว บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ล้มละลาย กำลังระอุขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า แผนการฟื้นฟู THAI ยังอยู่ในช่วงการหารือ แต่ยอมรับแผนล้มละลายเป็นหนึ่งในทางเลือก โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเป็นผู้ตัดสิน และไม่จำเป็นต้องล้มละลายก่อนค่อยฟื้นฟู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 พ.ค.) มีกำหนดการที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการประชุมแผนฟื้นฟู THAI ที่กระทรวงคมนาคม แต่ไม่ได้เดินทางมาประชุม มีเพียงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเดินทางมาร่วมประชุมร่วมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายถาวร เสนเนียม เท่านั้น

แหล่งข่าวอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) THAI ตั้งข้อสังเกตถึงความจริงใจของรัฐบาลในการฟื้นฟูกิจการ THAI เนื่องจากคณะกรรมการบริหาร THAI ได้มีการยื่นแผนฟื้นฟูกิจการมาให้กับรัฐบาลตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็น “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” แต่กลับได้ได้พิจารณาแผนอย่างจริงจัง จึงแก้ปัญหาไม่ได้ รวมถึงรัฐบาลชุดนี้ THAI เองได้ยื่นแผนฟื้นฟูให้กับกระทรวงคมนาคมแล้ว แต่ผู้บริการกระทรวงกลับเรียกร้องแผนฟื้นฟู “ฉบับสมบูรณ์” มาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีใครได้เห็นแผนฟื้นฟูที่ถูกย้ำมาโดยตลอดว่า “ไม่สมบูรณ์” แม้แต่กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่

“รัฐบาลต้องการที่จะพลิกฟื้นการบินไทยอย่างจริงจังหรือไม่ ทำไมปล่อยให้มีกระแสข่าวด้านลบออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ชี้แจงหรือเร่งดำเนินการใดใดให้กระแสข่าวจางลง”

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงอีกรายที่เกี่ยวข้องกับ THAI ระบุว่า ขณะนี้หลายประเทศต้องการใช้ไทยเป็นฮับในธุรกิจการบิน ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าหากการบินไทยล้มลงไป และเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้น จะมีกลุ่มที่ต้องการเข้ามา โดยเฉพาะ สิงคโปร์แอร์ไลน์ ที่ได้เตรียมเงินทุนจำนวนมากในการฟื้นฟูกิจการและขยายมายังไทย รวมถึง "แอร์เอเชีย" พันธมิตรหลักของ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ก็ต้องการเช่นกัน

@ ทางออกฟื้นฟูกิจการ

อดีตผู้บริหาร THAI ระบุด้วยว่า การฟื้นฟูกิจการ THAI ยังมีแนวทางโดยที่ภาครัฐไม่จำเป็นต้องใส่เม็ดเงินเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยควรหา “พันธมิตร” ร่วมทุนในกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพการทำกำไร อาทิ 1.ครัวการบิน, 2.ธุรกิจซ่อมบำรุง, และ 3.ธุรกิจคาร์โก้ โดยเฉพาะธุรกิจครัวการบินมีศักยภาพการทำกำไรเฉลี่ยปีละประมาณ 2,500ล้านบาทต่อปี หากให้ PE ต่ำ 8 เท่า บริษัทนี้ควรมีมูลค่าประมาณ 2หมื่นล้านบาท ดังนั้นก็สามารถหาพันธมิตรร่วมทุนใส่เงินเข้ามาได้ แต่ต้องเหมาะสม ไม่ใชขายหมูราคาต่ำเกินไป ส่วนธุรกิจซ่อมบำรุง นอกจากช่างฝีมือของการบินไทย ยังมีสินทรัพย์ที่ดี คือ มูลค่าสัญญาเช่าที่ดินภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง รวมถึงอู่ตะเภา หากมีการประเมินมูลค่าสัญญา และหาพันธมิตรก็น่าจะอีกก้อนใหญ่,

สำหรับธุรกิจคาร์โก้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันอีกทั้งมีศักยภาพที่จะขยายช่องทางการสร้างรายได้เพิ่มอีกอย่างมหาศาล ธุรกิจนี้เป็นอีกธุรกิจที่สามารถต่อยอดศักยภาพได้อีกไกล อยากฝากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประเมินมูลค่าทางธุรกิจอย่างเหมาะสม ไม่ใช่ให้ใครจากที่ไหนเข้ามา “หยิบชิ้นปลามัน” ออกไปแล้วทิ้งการบินไทยไว้ในสภาพไร้แขน-ขา 

@KTB อ่วมแน่หากTHAIล้ม

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย กล่าวว่า หากปล่อยให้ THAI ล้มละลาย รัฐบาลจะเสียหายมาก ทั้งในด้านสัดส่วนถือหุ้นมีโอกาสหายไป 50% ดังนั้นทุกหน่วยงานที่ลงทุนไป ทั้ง คลัง ออมสิน กองทุนรวมวายุภักษ์ ธ.กรุงไทย รวมออกมาแล้วน่าจะประมาณ 1.5แสนล้านบาท ขณะเดียวกันเจ้าหนี้ซึ่งเป็นธนาคารของภาครัฐ ทั้งธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารออมสิน ก็จะต้องตั้งสำรองด้วย

อย่างไรก็ดีภายใต้พ.ร.บ.ล้มละลายกลาง มาตรา 11/1 ไม่สามารถดำเนินการได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเมื่อมีการเจรจากับเจ้าหนี้ เพื่อขอลดหนี้ (Hair Cut)  ก็ยังต้องจัดหาเงินมาเพื่อเป็น “สภาพคล่อง” ให้บริษัทสามารถกลับมาดำเนินงานได้อีกครั้ง

@ต่างชาติรอฮุบ

สมมุติว่าต้องใส่เงินขั้นต่ำที่ 8หมื่นล้านบาท รัฐบาลจะหาเงินดังกล่าวจากแหล่งเงินทุนใด เมื่อสถาบันการเงินของรัฐบาลได้รับผลกระทบจากการ Hair Cut หนี้ทั้งสิ้น ดังนั้นทั้งนี้หากมีสายการบินต่างประเทศที่มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่งอาทิ สิงคโปร์แอร์ไลน์, แอร์เอเชีย มาเลเซีย เข้ามาเสนอวงเงิน 1.5แสนล้านเพื่อเข้ามาเป็นผู้บริหารจัดการ THAI โดยมีกระทรวงการคลังเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายย่อย เพื่อรับผลตอบแทนจากเงินปันผล มองง่ายๆ ก็น่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสม แต่ในความเป็นจริงถือว่าประเทศไทยศูนย์เสียเสถีรภาพทางอากาศเชิงพาณิชย์ “ทันที” ทั้งสล๊อตบินที่ THAI มีในทุกเส้นทางทั่วโลก, หลุมจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรวมถึงท่าอากาศยานสำคัญทั่วโลก ศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคต

“เราศูนย์เสียหมดเลย ไม่เหลือความภาคภูมิใจอะไรเลย แถมถูกต่างชาติหลอกซื้อด้วยราคาถูกอีกต่างหาก ประเทศไม่ได้อะไร แล้วคนขายล่ะได้อะไรบ้างถึงวางหมากขนาดนี้”