> SET >

13 พฤษภาคม 2020 เวลา 07:30 น.

หุ้นกู้อ่วมบอนด์ดอกสูง นอนเรตขอเลื่อนไถ่ถอน

ทันหุ้น-สู้โควิด- บจ.ออกหุ้นกู้โดนพิษ พันธบัตร "เราไม่ทิ้งกัน" ดอกเบี้ยสูง 3 เท่าของตลาด ทำต้นทุนการเงินพุ่ง ชี้หากออกต้องอัพดอกเบี้ยขึ้นอีก ประธานสภาธุรกิจตลาดทุน เชื่อสภาพคล่องตลาดมีเยอะ แต่ติดเรื่องความมั่นใจ เชื่อบริษัทใหญ่รอด แต่บริษัทนอนเรตสภาพรอแร่เร่งแก้เพียบ รับปีนี้อาจจะมีผิดนัดชำระ แต่ไม่กระทบตลาด จับตา ACAP ต้องคืนอีก 1.8 พันล้านบาท ด้าน CWT ขอเลื่อนอีก 1 ปี


หุ้นกู้เอกชนอาจจะต้องเผชิญกับซัพพลายตราสารหนี้และต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น หลังจาก กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลออมทรัพย์พิเศษรุ่น "เราไม่ทิ้งกัน" 2 รุ่น คือ รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 2.40%ต่อปีและพันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ย 3.00% ต่อปี วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท  ซึ่งอัตราพันธบัตรที่รัฐบาลออกมานั้นนับว่าสุดจะจูงใจ เพราะสูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตรในตลาดล่าสุดถึง 3 เท่าตัว โดยปัจจุบันอัตราผลตอบแทน 5 ปี อยู่ที่ 0.801% และ 10 ปี อยู่ที่ 1.053%


ท่ามกลางความวิตกว่า ด้วยผลตอบแทนพันธบัตรออมทรัพย์ ที่ออกมาสูงอาจจะทำให้ ดอกเบี้ยที่เอกชนต้องออกหุ้นกู้ถีบตัวสูงขึ้นอีก รวมถึงตาม พ.รก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท รัฐบาลจะต้องออกพันธบัตรอีกเป็นจำนวนมากอาจจะเป็นการชิงเม็ดเงินของ "หุ้นกู้เอกชน" ได้


@หุ้นกู้นอนเรตเสี่ยงผิดนัด


ดร.สันติ กีระนันทน์ อดีตรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า การที่กระทรวงการคลังได้ประกาศออกพันธบัตรรัฐบาลออมทรัพย์ 50,000 ล้านบาท ให้ดอกที่สูงนั้น อาจจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทที่ออกหุ้นกู้สูงขึ้นบ้าง แต่คงไม่ถึงขนาดจะมาแย่งตลาดหุ้นกู้ของเอกชน เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องมีการทบทวนการออกพันธบัตร 800,000 ล้านบาท


อย่างไรก็ดีขณะนี้บริษัทหลายแห่งที่ออกหุ้นกู้และครบกำหนดในปีนี้ ได้ใช้วิธีการหันไปกู้เงินธนาคารพาณิชย์แทน เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายในตลาดตราสารหนี้ ดังนั้นจึงมองว่าตลาดตราสารหนี้ในไทยปีนี้จะมีการออกหุ้นกู้ลดลงราว 20% แต่ยังเชื่อว่าบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเรตติ้ง อินเวสเมนท์เกรด จำเป็นต้องออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมจะสามารถผ่านพ้นได้ เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีกองทุน BSF ในการอุดหนุน แม้ว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น


แต่มีความกังวลบริษัทที่ออกหุ้นกู้และไม่มีเรตติ้ง หรือ นอนเรต กลุ่มนี้หลายบริษัทได้เร่งดำเนินการที่จะขอเลื่อนไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดกันแล้ว โดยขณะนี้ผู้ถือหุ้นกู้หลายรายที่เป็นกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูงได้ยอมที่จะเลื่อนไถ่ถอน แต่ก็ยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ ซึ่ง ธปท. ควรเข้ามาช่วย อย่างไรก็ดีการเลื่อนไถ่ถอนส่วนใหญ่จะทำได้ 6 เดือน และต้องให้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น


ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย มองว่า ดอกเบี้ยของหุ้นกู้เอกชนยังมีคงมีช่องว่างที่จะสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้นเชื่อว่าไม่น่าจะได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ขณะเดียวกันรัฐบาลสามารถที่จะออกพันธบัตรตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท โดยไม่กระทบกับตลาดหุ้นกู้เอกชน เนื่องจากมองว่าสภาพคล่องการเงินของไทยยังมีสูง แต่ที่หุ้นกู้ขายไม่ได้ ก็เพราะตลาดไม่เอื้ออำนวย ความมั่นใจยังไม่กลับมา ซึ่งมองว่าขณะนี้เริ่มมีความมั่นใจในระดับหนึ่งแล้ว


ส่วนบริษัทออกหุ้นกู้ที่เป็นประเภทนอนเรตนั้นมองว่ามีอยู่ไม่เยอะมากราว 1-5% และตอนนี้กำลังแก้ไขกันอยู่ ยอมรับว่ามีโอกาสที่จะผิดนัดชำระหนี้ แต่ด้วยจำนวนเงินที่ไม่มาก ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับภาพรวมตลาดการเงิน รวมถึงตลาดทุนแต่อย่างใด


CWTขอเลื่อน-จับตาACAP


ด้านแหล่งข่าววงการอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในส่วนของ TTCL นั้นมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ไปเมื่อวานนี้ และเป็นนอนเรต แต่สามารถเงินคืนแล้ว 1,900 ล้านบาท และจะมีครบกำหนดอีก 500 ล้านบาทในวันที่ 14 พ.ค.นี้ โดยบริษัทใช้กระแสเงินสดที่มีอยู่ราว 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอน ทั้งนี้ปกติบริษัทจะมีการออกหุ้นกู้เพื่อโรลโอเวอร์ แต่มองว่าจังหวะนี้ยังไม่ใช่การออกหุ้นกู้เนื่องจากจะมีต้นทุนการเงินที่สูงมาก โดยเฉพาะการที่รัฐบาลออกพันธบัตรมา ให้เรตดอกเบี้ยที่สูง ทำให้เอกชนไม่กล้าที่จะออกหุ้นกู้ เพราะจะต้องใช้เรตของรัฐบาลตั้งต้น (Risk free rate) ซึ่งอาจจะทำให้ต้นทุนการเงินสูงขึ้นโดยใช้เหตุอย่างน้อย 3 ปี ส่วนจะกลับมาออกหุ้นกู้เมื่อใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด และมองว่าขณะนี้คือบทพิสูจน์สำคัญบริษัทที่อยู่รอดต้องแกร่ง


ทั้งนี้ ทันหุ้น ได้สำรวจบริษัทที่ออกหุ้นกู้นอนเรตที่ต้องจับตาในการไถ่ถอน ประกอบด้วย ACAP มูลค่ารวมหุ้นกู้ต้องชำระในปีนี้ 1,875 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีเงินสดรวม EBIDA ณ วันที่ 31 ธ.ค.2562 รวมกันทั้งสิ้น 154 ล้านบาทเท่านั้น และก่อนหน้านี้ช่วง ก.พ.ACAP ได้ขอเลื่อนไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด จำนวน 395.3 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปีแล้ว


ขณะที่ CWT ได้แจ้งเตรียมเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ CWT205A เพื่อขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 1 ปี โดยแก้ไขวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ จากเดิม วันที่ 23 พ.ค. 2563 เป็น 23 พ.ค. 2564 และชำระคืนเงินต้นจำนวน 30% ของมูลค่าหุ้นกู้คงค้าง และขอยกเลิกมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพื่อสำรองเงินสดสำหรับภาระเงินกู้ที่จะครบกำหนดชำระ

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X