> SET > LH

30 เมษายน 2020 เวลา 11:10 น.

LHหวังปัจจัยหนุนราคาหุ้นคืออัตราดอกเบี้ยต่ำและเงินปันผล

ทันหุ้น-สู้โควิด- บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือSCBS  ระบุว่า LH จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในระยะสั้น โดยกำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ เพราะผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมและบริษัทร่วมอ่อนแอ แม้ธุรกิจอสังหาฯ จะเติบโต YoY แต่ไม่น่าจะมากพอที่จะชดเชยได้ คาดว่า LH จะสามารถรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปีนี้ด้วยเงินกู้ธนาคารอย่างราบรื่น


ปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น คือ แนวโน้มที่ LH จะได้กำไรมากขึ้นจากการขายสินทรัพย์ในสหรัฐฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ และเงินปันผลระหว่างกาลครั้งที่ 2 จำนวน 0.4 บาท/หุ้น (ผลตอบแทน 5.5%, XD 7 พ.ค.) เรายืนยันคำแนะนำ “ซื้อ” LH


คาดว่า LH จะรายงานกำไรอ่อนแอที่ 1.1 พันลบ. ใน 1Q63 -39% YoY และ -47% QoQ เพราะธุรกิจโรงแรมอ่อนแอและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง โดยมีสาเหตุมาจากผลกระทบของโควิด-19 ถ้ากำไรออกมาตามที่เราคาด กำไร 1Q63 จะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 21% ของประมาณการกำไรปี 2563 ของเรา LH น่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 14 พ.ค.


ธุรกิจอสังหาฯ จะเติบโต YoY คาดว่ากำไรของธุรกิจอสังหาฯ จะเติบโต YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากยอดขายบ้านแนวราบที่ดี และการโอนกรรมสิทธิ์ที่โครงการ The Bangkok ทองหล่อ อย่างต่อเนื่อง เราคาดว่ายอดขายของ LH จะอยู่ในระดับทรงตัว YoY ที่ 5.5 พันลบ. ใน 1Q63 (บ้านแนวราบ 93% และคอนโด 7%) ทั้งๆ ที่จำนวนผู้เยี่ยมชมโครงการลดลง 15% สำหรับบ้านแนวราบ และ >15% สำหรับคอนโดในเดือนมี.ค. ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19โดยได้รับการสนับสนุนจากการตอบรับที่ดีต่อทาวน์เฮ้าส์ และการเซ็นสัญญาอย่างต่อเนื่องที่โครงการ The Key พระราม 3


ธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยจะสร้างผลขาดทุน อัตราการเข้าพักเฉลี่ยลดลงสู่ 50-60% ใน 1Q63 จาก 82% ในปี 2562 เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19ซึ่งจะส่งผลทำให้ธุรกิจโรงแรมสร้างผลขาดทุน ทั้งๆ ที่ EBITDA ยังเป็นบวก การดำเนินงานจะยิ่งแย่ลงใน 2Q63 โดยมีสาเหตุมาจากมาตรการล็อคดาวน์ ในเดือนเม.ย. บริษัทปิด Terminal 21 พัทยา และ Grande Centre Point พัทยา อพาร์ทเม้นท์ในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เนื่องจากอัตราการเข้าพักเฉลี่ยยังสูงกว่า 80%โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอัตราการเข้าพักที่สูงขึ้นที่อพาร์ทเม้นท์ Parc ซึ่งเพิ่งปรับปรุงอาคารเสร็จ


ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจะทำสถิติต่ำสุด คาดการณ์ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 336ลบ. -61% YoY และ -63% QoQ ต่ำสุดนับตั้งแต่ 1Q58 โดยเกิดจากส่วนแบ่งขาดทุน 155 ลบ. ที่ LHFG ซึ่งมีขาดทุนจำนวนมากจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนตามราคาตลาด, กำไรที่ลดลงจาก QH (-65% YoY และ -49% QoQ) บวกกับผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงของ HMPRO (-11% YoY และ -28% QoQ) เพราะ SSS หดตัวลง และรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นลดลง


การบริหารกระแสเงินสด LH จะลดรายจ่ายลงทุนสำหรับซื้อที่ดินลงจากแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7พันลบ. และชะลอการก่อสร้างตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง บริษัทจะรักษาระดับสินค้าคงคลังไว้ที่ 2.0-2.5 เดือนของยอดขาย LH มี หุ้นกู้มูลค่า 1.4 หมื่นลบ. ที่จะครบกำหนดในปีนี้ (7 พันลบ.ในเดือนเม.ย. และ 7 พันลบ.ในเดือนต.ค.) ในเดือนเม.ย. บริษัทรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ 7 พันลบ. ด้วยเงินกู้ธนาคารไปแล้ว บริษัทมีวงเงินกู้ 1.64หมื่นลบ. ซึ่งมากเกินพอที่จะรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ 7 พันลบ. ที่จะครบกำหนดในเดือนต.ค. ในด้านบวก อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงในสหรัฐฯ จะทำให้นักลงทุนต้องการผลตอบแทนน้อยลง ซึ่งหมายความว่า LH อาจจะทำกำไรได้มากขึ้นจากการขายสินทรัพย์


อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X