> SET > QH

30 เมษายน 2020 เวลา 10:38 น.

QHกระแสเงินสดดี-ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่า

ทันหุ้น-สู้โควิด- บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด คาดว่า QH จะรายงานผลการดำเนินงานที่อ่อนแอทั้ง YoY และ QoQ ใน 1Q63 เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คำสั่งให้อยู่บ้านส่งผลทำให้ยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ต่ำ; มาตรการล็อคดาวน์ส่งผลกระทบทำให้ธุรกิจโรงแรมมีผลขาดทุน (แม้ EBITDA ยังเป็นบวก)


และการปรับมูลค่าเงินลงทุนของ LHFG ตามราคาตลาด และ SSS ที่หดตัวลงของ HMPRO กดดันให้ส่วนแบ่งกำไรลดลง QH มีระบบการบริหารกระแสเงินสดที่ดี และราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่า (ซื้อขายที่ PBV 0.8 เท่า หรือ 0.6 เท่าของมูลค่าเงินลงทุนตามราคาตลาด) เราแนะนำ “ซื้อ” QH


คาดกำไร 1Q63 อ่อนแอ คาดการณ์กำไรปกติ 1Q63 ของ QH ที่ 295 ลบ. ลดลงถึง 65% YoY และ 49% QoQ เพราะธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจโรงแรม และบริษัทร่วมอ่อนแอ ถ้ากำไรออกมาตามที่เราคาด กำไร 1Q63 จะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 16% ของประมาณการกำไรปี 2563 ของเรา สะท้อนความเสี่ยง downside ต่อประมาณการกำไรปี 2563 ของเรา QH น่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 13 พ.ค.


ธุรกิจอสังหาฯ อ่อนแอ คาดการณ์รายได้จากธุรกิจอสังหาฯ ที่ 1.7 พันลบ. ลดลงถึง 45% YoY และ 14% QoQ โดยมีสาเหตุมาจากยอดขายที่อ่อนแอ ยอดขายของ QH ลดลง 31% YoY สู่ 1.6 พันลบ. (บ้านแนวราบ 92% และคอนโดเพียง 8%) คิดเป็นสัดส่วนเพียง 17% ของเป้าทั้งปีของบริษัท เนื่องจากบริษัทเปิดตัวโครงการขนาดเล็กเพียง 1 โครงการ คือ Q เกษตร-นวมินทร์ มูลค่า 80 ลบ. ผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลทำให้จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมโครงการลดลง 30-40% YoY และบริษัทปิดโครงการเปิดใหม่ คือ Q Prime สุขุมวิท 77 มูลค่า 2 พันลบ. เป็นการชั่วคราว หลังจากเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการในช่วงปลายเดือนก.พ. อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 6.5 พันลบ. ไว้เหมือนเดิม โดยจะเปิดตัวโครงการที่เหลืออีก 4 โครงการใน 2H63 ข่าวดี คือ อัตราการปฏิเสธสินเชื่อลดลงสู่ 12% จาก 18% ในปี 2562


ธุรกิจโรงแรมจะสร้างผลขาดทุน อัตราการเข้าพักเฉลี่ยลดลงสู่ 50% ใน 1Q63 จาก 84% ในปี 2562 โดยมีสาเหตุมาจากมาตรการล็อคดาวน์ เราคาดว่าธุรกิจโรงแรมจะสร้างผลขาดทุน แม้ว่า EBITDA จะยังเป็นบวก การดำเนินงานใน 2Q63 จะยิ่งแย่ลง


บริษัทร่วมจะสร้างส่วนแบ่งกำไรต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 4Q56 คาดการณ์ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 217 ลบ. -52% YoY และ -60% QoQ ต่ำสุดนับตั้งแต่ 4Q56 โดยมีสาเหตุมาจากเซอร์ไพร้ส์เชิงลบจาก LHFG ซึ่งรายงานขาดทุน 709 ลบ. จากการปรับมูลค่าเงินลงทุนตามราคาตลาด และผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงของ HMPRO (-11%YoY และ -28% QoQ) เพราะโควิด-19 ส่งผลกระทบทำให้ SSS หดตัวลง และรายได้ค่าเช่าและรายได้อื่นลดลง


การบริหารกระแสเงินสด QH วางแผนลดงบซื้อที่ดินลงจากแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3 พันลบ. และชะลอการก่อสร้างตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง ปัจจุบันบริษัทมีสต๊อกคอนโดมูลค่า 1.4 หมื่นลบ.: Q สุขุมวิท 8 พันลบ. และคอนโดอื่นๆ 6 พันลบ. บริษัทมีหุ้นกู้มูลค่า 8 พันลบ. ที่จะครบกำหนดในปีนี้ (4 พันลบ. ในเดือนพ.ค. และ 4 พันลบ. ในเดือนพ.ย.) และวางแผนรีไฟแนนซ์ด้วยเงินกู้ธนาคาร (บริษัทมีวงเงินกู้ 4-6 พันลบ.) และรายได้เงินปันผลจากบริษัทร่วม (1.5 พันลบ.) บริษัทคาดว่าต้นทุนหนี้สินจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2.53% เมื่อสิ้นปี 2562 สู่ 2.60-2.70% ในปี 2563



อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X