> SET > EKH

30 เมษายน 2020 เวลา 08:46 น.

EKHพลิกกลยุทธ์เช็คสุขภาพเดลิเวอรี่

ทันหุ้น – สู้โควิด- EKH พลิกกลยุทธ์สร้างโอกาสธุรกิจ ส่งรถเคลื่อนที่ให้บริการตรวจเช็คสุขภาพถึงบ้าน! หวังชดเชยรายได้จากการบริการรักษาที่หดตัวลงจากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หวังภาครัฐทยอยปลดล็อกมาตรการควบคุมโรคเป็นบวก เชื่อประชาชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น จ่อทบทวนเป้าหมายใหม่หลังไตรมาส 2/2563


นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เปิดเผยว่าจากการเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยที่เริ่มขยายตัวเป็นวงกว้างนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา ส่งผลให้บริษัทได้มีการแตกไลน์การให้บริการตรวจโรคและฉีดวัคซีนแบบ delivery ถึงบ้าน, การให้บริการตรวจไวรัสโควิด-19 แบบ Drive Thru รวมถึง Talenet คือ การตรวจโคแบบออนไลน์และสั่งจ่ายยาจัดส่งถึงบ้าน


รุกเดลิเวอรี่


ซึ่งได้มีการเปิดให้บริการมากแล้วประมาณ 1 เดือน และได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มคนไข้ที่ไม่สะดวกเดินทางมารับบริการรักษาที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ เชื่อว่ารายได้จากการให้บริการแบบ delivery จะเข้ามาช่วยชดเชยรายได้จากการให้บริการเดิมที่หายไปได้บ้าง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาคนไข้มีความกังวลต่อการเดินทางมาใช้บริการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาล ทำให้ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน 2563 มีอัตราการเข้าใช้บริการทางการแพทย์ลดลงมากกว่า50% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน


แต่โดยปกติในช่วงไตรมาส 2 ของทุกปีจะเป็นช่วงโลซีซันของธุรกิจ ทำให้มีอัตราการเข้าใช้บริการทางการแพทย์เฉลี่ยที่ประมาณ 40 - 60% เมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นๆ ที่เฉลี่ยสูงกว่า 70 - 80% อย่างไรก็ตาม มองว่าจากการที่ภาครัฐผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ลง ทั้งการเปิดเมืองและการให้ศูนย์การค้า ร้านค้า ร้านอาหารบางรายการ กลับมาเปิดให้บริการนั้น เชื่อว่าทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายและเชื่อมั่นมากขึ้น และคาดว่าสัญญาณต่างๆ จะเริ่มกลับมาดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 2/2563


ขณะที่ศูนย์ผู้มีบุตรยากหรือศูนย์เด็กหลอดแก้ว (IVF) ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ดังนั้นจากการที่ชาวจีนชะลอตัวลงทำให้อัตราการเข้าใช้บริการในศูนย์ IVF โดยเฉพาะสาขาพระราม 9 ที่ลดลงอย่างชัดเจน เพราะมากกว่า 90% เป็นสัดส่วนลูกค้าชาวจีน ในขณะที่คนไทยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% เท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้คาดว่าจะกลับมาได้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถูกคลี่คลายลง


ทบทวนเป้า


อย่างไรก็ตาม มองว่าผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2563 อาจได้รับผลกดันจากไวรัสโควิด-19 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ไตรมาส 2/2563 ค่อนข้างคาดเดาได้ยากว่าในช่วงที่เหลืออีก 2 เดือนสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเป็นอย่างไร ทำให้มองว่าภายหลังจากที่มีการประกาศงบผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 บริษัทอาจมีการทบทวนเป้าหมายผลการดำเนินงานปี2563ใหม่ จากเดิมที่วางเป้าหมายการเติบโตไม่ต่ำกว่า 8% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 911.00 ล้านบาท


ส่วนแผนการลงทุนในปี 2563 นั้น การปรับปรุงพื้นที่และเพิ่มพื้นที่การให้บริการทางการแพทย์ในศูนย์เฉพาะทาง เช่น ศูนย์ไต ศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์หูตาคอจมูก ศูนย์ทันตกรรม เป็นต้น ยังคงมีการดำเนินการตามแผน ในส่วนการลงทุนใหม่โครงการพัฒนาศูนย์ดูแลผู้สูงอายุนั้น เบื้องต้นอาจต้องชะลอไปก่อนและรอให้สถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายมีความเหมาะสมต่อการลงทุนก่อนจึงจะได้ข้อสรุปของการลงทุน



อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X