ทันหุ้น - สู้โควิด - บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไร 1Q63 ลดลง 26% YoY จากการปิดศูนย์การค้า โดยผลประกอบการจะต่ำสุดใน 2Q63 ภายใต้สมมติฐานว่าศูนย์การค้ากลับมาเปิดในเดือน มิ.ย. และกำไรค่อยๆฟื้นตัวใน 3Q63 ก่อนที่จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า แม้ปิดศูนย์การค้า แต่เราคาดว่า EBITDA margin ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 50% อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.46 เท่า แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF) 66 บาท

จากการปิดศูนย์การค้าตั้งแต่ 22 มี.ค. คาดว่าทำให้รายได้ค่าเช่าลดลง 10%YoY จากการงดเก็บค่าเช่าสำหรับร้านค้าที่ปิด และให้ส่วนลดค่าเช่าแก่ร้านอาหารและธนาคารซึ่งยังคงเปิดได้ ขณะที่รายได้จากธุรกิจอาหารและโรงแรมลดลงเช่นกัน รายได้จากโครงการที่อยู่อาศัยน้อยกว่าคาดเนื่องจากลูกค้าเลื่อนโอน แต่คาดว่ายังเพิ่มขึ้น 101% YoY เป็น 287 ล้านบาทจากฐานต่ำ ในด้านต้นทุนและค่าใช้จ่ายลดลงจากการปิดศูนย์การค้า เราประเมินกำไรปกติ 1Q63 ที่ 2,083 ล้านบาท (-39% QoQ, -26% YoY) กำไรสุทธิ 2,183 ล้านบาท (-39% QoQ, -23% YoY) เนื่องจากคาดว่าจะมีการบันทึกกำไรประมาณ 100 ล้านบาทจากการที่ GLAND ขายอาคาร G-Tower ให้ CPNREIT

ทางฝ่ายคาดผลประกอบการของ CPN จะต่ำสุดใน 2Q63 และค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วง 3Q63-4Q63 ภายใต้สมมติฐานการปิดศูนย์การค้าในเดือน เม.ย. - พ.ค. และกลับมาเปิดในเดือน มิ.ย. โดยให้ส่วนลดค่าเช่า 10-50% กับผู้เช่า ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายคาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยยะเช่นกันจากค่าสาธารณูปโภค ค่าการตลาดและโฆษณา อย่างไรก็ดี CPN อาจมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการให้ CPNREIT ต่ออายุเช่าโครงการเซ็นทรัลพระราม 2 ประมาณ 1-2 พันล้านบาท

หากศูนย์การค้ากลับมาเปิดในเดือน มิ.ย. เราประเมินกำไรปีนี้ลดลง 55%YoY เป็น 5,284 ล้านบาทก่อนที่จะฟื้นตัว 87% เป็น 9,887 ล้านบาทในปี 2564 โดยคาดว่าค่าเช่าจะกลับสู่ระดับปกติ และอัตราเข้าเช่าฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง คาดอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน 0.46 เท่าในปีนี้