ทันหุ้น-สู้โควิด-บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัดหรือSCBS  ระบุว่าผลประกอบการ 1Q63 ของกลุ่มธนาคารสะท้อนถึง1) คุณภาพสินทรัพย์ที่แย่ลง พร้อมกับการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นตามกระบวนการ management overlay เพื่อรับมือผลกระทบจากโควิด-19 2) NII สูงกว่าคาด และ 3) non-NII ลดลงเพราะขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินและรายได้ค่าธรรมเนียมลดลง

เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มปรากฏให้เห็น ดังนั้นเราจึงแนะนำให้รอจนกว่าความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จะลดน้อยลง เรายังคงเลือก BBL เป็น top picks ของกลุ่มธนาคาร เพราะงบดุลแข็งแกร่งที่สุด

สรุปผลประกอบการ 1Q63: NII สูงกว่าคาด สร้างเซอร์ไพร้ส์ด้วยการรับรู้ขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน กำไรสุทธิ 1Q63 ของกลุ่มธนาคารลดลง 20% YoY แต่ขยับขึ้น 2 % เป็นไปตามที่ตลาดและ SCBS คาด NII ที่สูงกว่าคาดโดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตของสินเชื่อและ NIM ถูกหักล้างโดยขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินผ่านงบกำไรขาดทุน (FVTPL)

ไฮไลท์ 1Q63:

1) คุณภาพสินทรัพย์: NPL ที่รายงานเพิ่มขึ้น 8% QoQ ยังไม่สะท้อนผลกระทบจากโควิด-19 ธนาคารส่วนใหญ่ (ยกเว้น BBL และ LHFG) ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น QoQ เพื่อสะท้อนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ในอนาคตตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 พร้อมกับตั้งสำรองเพิ่มตามกระบวนการ management overlay เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจขาลงอย่างรุนแรงสืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ธนาคารส่วนใหญ่ (ยกเว้น SCB และ TISCO) รายงาน LLR coverage ลดลง QoQ

2) การเติบโตของสินเชื่อ: การเติบโตของสินเชื่อดีกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 3.3% YoY และ 1.8% QoQ หลักๆ เกิดจากสินเชื่อธุรกิจ

3) NIM: NIM ดีกว่าคาด โดยขยายตัว 32 bps QoQ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนมาใช้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 แทนอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา และการรับรู้การปรับอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ ลดลง 23 bps เร็วกว่าคาด

4) Non-NII: Non-NII แย่กว่าคาด โดยลดลง 28% YoY และ 44% QoQ หลักๆ เกิดจากขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน และเงินลงทุนที่ลดลง รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง BBL, KBANK (บริษัทย่อยที่ทำธุรกิจประกัน) และ KTB บันทึกขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินผ่านงบกำไรขาดทุน (FVTPL) ธนาคารส่วนใหญ่ ยกเว้น SCB และ TMB (ซึ่งมีรายได้ค่าธรรมเนียม bancassurance มากขึ้น) มีรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลง YoY และ QoQ หลักๆ เกิดจากการเปลี่ยนมาทยอยรับรู้ค่าธรรมเนียม upfront fee เป็นรายได้ดอกเบี้ยตามมาตรฐานบัญชี TFRS9

แนวโน้ม 2Q63: คาดกำไรลดลงมาก  คาดการณ์ในเบื้องต้นว่ากำไรสุทธิ 2Q63 ของกลุ่มธนาคารจะลดลง 35%YoY และ 22% QoQ เพราะได้รับผลกระทบจากสองปัจจัย ปัจจัยแรก NIM จะหดตัวลงอย่างมาก โดยมีสาเหตุมาจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 40bps ในเดือนเม.ย. (แลกกับการปรับอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ ลดลง 23 bps สำหรับปี 2563 และปี 2564 โดยเริ่มรับรู้ใน 1Q63) บวกกับการคาดการณ์ถึงการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 25bps ปัจจัยที่สอง เราคาดว่าธนาคารต่างๆ จะตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอีกเพื่อสะท้อนผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19TISCO เป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่คาดว่าจะรายงานกำไรดีขึ้น QoQ ใน 2Q63 เนื่องจากธนาคารตั้งสำรองเพิ่มตามกระบวนการ management overlay ไปแล้วใน 1Q63 เพื่อสะท้อนการคาดการณ์ว่า GDP ปี 2563 จะหดตัวลง 5%

แนวโน้มปี 2563 ภายหลังการประกาศผลประกอบการ 1Q63 ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของสินเชื่อปี 2563 ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นจาก -1.6% สู่ 3.1% เพื่อสะท้อน: 1) สินเชื่อที่เติบโตสูงกว่าคาดที่ 1.8% YTD 2) ความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นเพื่อรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ภาคเอกชนที่จำเป็นต้องต่ออายุ และ 3) การปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำให้กับ SME นอกจากนี้เราก็ปรับประมาณการ NIM ปี 2563 เพิ่มขึ้น 13 bps ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์ว่า NIM จะหดตัวลง 7 bps ในปี 2563 เนื่องจากเรารวมเอาปัจจัยเหล่านี้เข้ามาไว้ในประมาณการ: 1) ผลกระทบที่น้อยกว่าคาดจากการนำอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงมาใช้ตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 2) การปรับอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ ลดลง 23 bps และ 3) การที่ BBL เป็นธนาคารแห่งแรกที่ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ลง 12.5-25 bps ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ธนาคารอื่นๆ ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ลดลงตามมา โดยสรุปแล้วเราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2563 ของกลุ่มธนาคารจะลดลง 25% ในปี 2563

Valuation ถูก แต่ไม่จำเป็นต้องรีบซื้อ ยังคงเลือก BBL เป็น top pick ของกลุ่มธนาคาร เนื่องจาก BBL เป็นธนาคารที่มีงบดุลแข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากยังไม่มีความแน่นอนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะสามารถควบคุมได้เมื่อใด ธนาคารต่างๆ จึงยังคงเผชิญกับความเสี่ยงขาลง หลักๆ ในแง่ของคุณภาพสินทรัพย์ แม้หุ้นธนาคารส่วนใหญ่ซื้อขายที่ valuation ถูก แต่เราแนะนำให้รอจนกว่าความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จะปรับลดลง

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1