ทันหุ้น – บล.ฟิลลิป ส่องกล้อง ITEL ชี้หากกลับสู่ภาวะปกติ ผลงานมีโอกาสฟื้นตัว จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีของบริษัทต่างๆ คาดกำไร 1/63 อ่อนแอจาก GPM ที่ลดลง และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ประเมินราคาพื้นฐานปี 2563 ที่ 2.96 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไว้รัส COVID-19 ที่ลุกลามและขยายไปวงกว้างจนรัฐบาลต้องประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 63 นั้น แม้ว่า ITEL จะได้รับอานิสงส์บวกจากการเพิ่มขนาดช่องสัญญาณ (Bandwidth) เพื่อรองรับปริมาณการใช้งานที่สูงขึ้น ภายใต้การจัดทำแผน BCP (Business Continuity Plan) สำหรับบริษัทที่มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติงานสำรองขึ้น แต่เนื่องด้วยลักษณะงานบางประเภทของบริษัทที่ต้องติดต่อกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่บางแห่งเข้าข่ายสถานที่เสี่ยงที่ต้องปิดกิจการ ทำให้การเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่นั้นๆ ค่อนข้างเป็นไปอย่างยากลำบาก ซึ่งส่งผลต่อการเลื่อนรับรู้รายได้ในแต่ละโครงการ รวมถึงการขยายฐานหาลูกค้าเพิ่มเติม

ผลงานมีโอกาสฟื้นตัว

อย่างไรก็ดีทางฝ่ายประเมินว่าหากสถานการณ์คลี่คลายลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผลดำเนินงานของ ITEL คาดมีโอกาสจะกลับมาฟื้นตัวจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีของบริษัทต่างๆ เพื่อรองรับยุค 5G หลังจากการประมูลคลื่นของ กสทช. เสร็จสิ้นแล้วเมื่อเดือน ก.พ. 63 ที่ผ่านมา ตลอดจนการเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ ที่คาดจะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างหารือกับพันธมิตร เพื่อเข้าไปรับงานวางระบบโครงข่าย รวมถึงการพัฒนาโซลูชั่น 5G เพื่อต่อยอดสำหรับการเข้าประมูลโครงการ "Tele Health" ของ กสทช. ซึ่งถือเป็นส่วนต่อขยาย "โครงการเน็ตประชารัฐ"

ทางฝ่ายคาด ITEL จะรับรู้รายได้จากการให้บริการช่วงไตรมาส 1/63 ที่ 499 ล้านบาท แม้ลดลง 8.9% q-q จากการเลื่อนรับรู้รายได้ แต่เติบโต 11.9%y-y หลักๆ มาจากธุรกิจการให้บริการติดตั้งโครงข่าย (Installation) ที่คาดเพิ่มขึ้น 20% y-y ซึ่งเติบโตตามการรับรู้ความสำเร็จของงานที่ทำได้ โดยมีโครงการที่สำคัญได้แก่ โครงการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (USO Phase 2) ขณะที่ GPM รวมคาดปรับตัวลงจาก 23.9% ใน 1Q62 มาอยู่ที่ 21.4% จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนที่มากกว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้ และเมื่อรวมกับต้นทุนทางการเงินที่คาดสูงขึ้น สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับยอดเงินกู้ ส่งผลให้กำไรสุทธิช่วง 1Q63 ของ ITEL จะอยู่ที่ 33.5 ลบ. ลดลง 13.9% y-y และ 28.2% q-q

มีมุมมองเชิงบวก

แม้การประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินในช่วงเวลานี้อาจจะส่งผลต่อความสามารถในการขยายฐานลูกค้า แต่ด้วยโอกาสความเป็นไปได้ที่ธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว หากสถานการณ์คลี่คลายลง ท่ามกลางความต้องการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่คาดมีเพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง ทำให้ทางฝ่ายยังมีมุมมองบวกต่อผลดำเนินงานในอนาคตของบริษัท

ขณะที่สถานะ Backlog ปัจจุบันที่มีอยู่ทั้งสิ้น 4,214.17 ลบ. ณ สิ้นปี 62 ทำให้แม้บริษัทจะไม่สามารถหางานใหม่จากลูกค้าใหม่ได้ แต่บริษัทก็ยังสามารถรับรู้รายได้ตามความสำเร็จของงานได้ในปี 63 นี้ราว 30%Backlog ที่มีอยู่ เบื้องต้นทางฝ่ายจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 63 ที่ 160 ล้านบาท ลดลง 11.4%y-y และด้วยราคาพื้นฐานปี 63 ที่ 2.96 บาท ยังมีส่วนต่างจากราคาหุ้นปัจจุบันสูงกว่า 30% ทางฝ่ายจึงยังคงแนะนำ "ซื้อ"