ทันหุ้น - สู้โควิด - HPT สบช่องขนสินค้าขายออนไลน์ คาดสัดส่วนวิ่งชน 20% จากปีก่อนไม่ถึง 10% พร้อมตุนแบ็กล็อกแน่น 30 ล้านบาท รอส่งมอบถึงมิถุนายน เทรนด์ขายสินค้าสีสันพุ่ง แย้มปัจจุบันสัดส่วนเกิน 50% เล็งเพิ่มกำลังผลิต 10% หากความต้องการล้น

นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮมพอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT เปิดเผยว่า บริษัทประเมินทิศทางความต้องการใช้อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร อุปกรณ์เครื่องครัว และภาชนะที่ใช้ในร้านอาหาร โรงแรมจะมีความต้องการเพิ่มขึ้น หากธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม และห้างสรรพสินค้ากลับมาดำเนินการปกติในช่วงสิ้นเมษายน โดยบริษัทเตรียมความพร้อมการผลิตและส่งสินค้าให้ตรงความต้องการของลูกค้า

กอดแบ็กล็อกแน่น

ทั้งนี้บริษัทมีคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) จากลูกค้าเป็นจำนวนมากตั้งแต่ต้นปี 2563 แต่ช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทส่งมอบสินค้าได้ช้ากว่ากำหนด เนื่องจากติดปัญหาการระบาดไวรัสโควิด-19 ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสินค้ารอส่งมอบ(Backlog) อยู่ที่ 30 ล้านบาท โดยคาดจะทยอยส่งมอบและรับรู้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า

สำหรับแบ็กล็อกที่มีอยู่จำนวน 30 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนสินค้าที่มีสีสันเกินกว่า 50% ส่วนที่เหลือจะเป็นสินค้าสีขาวล้วน โดยทิศทางความต้องการใช้สินค้าที่มีสีสันเติบโตเพิ่มขึ้น จากลูกค้าในกลุ่มโรงแรมต่างประเทศ

ขณะเดียวกันบริษัทปรับกลยุทธ์การจำหน่ายสินค้า บริษัท เซ็นทรัลฮอสพิแทลลิที จำกัด หรือ CHLจากการจำหน่ายหน้าร้านมาเป็นจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อผลักดันยอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทมีสินค้าประเภทเจลล้างมือ สเปรย์ความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อจำหน่ายให้ร้านอาหาร โดยสินค้าดังกล่าวมีตัวเลขการเติบโตสูงขึ้น ตามความต้องการของผู้บริโภค

ยอดออนไลน์ชน 20%

ทั้งนี้ตัวเลขยอดขายของกลุ่มเจลล้างมือ สเปรย์ทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ จะมาทดแทนยอดขายสินค้าผลิตภัณฑ์เครื่องใช้และอุปกรณ์ สำหรับโรงแรมและร้านอาหารที่ไม่สามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตามแผน และบริษัทคาดสัดส่วนยอดขายออนไลน์ปีนี้จะเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 20% จากปีก่อนมีสัดส่วนยอดขายไม่ถึง 10%

นางสาวนิจวรรณ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มครึ่งปีแรกของปี 2563 เป็นภาวะที่ไม่ปกติ เนื่องจากมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจภายในประเทศ และโรคไวรัสโควิด-19 ระบาด ส่งผลกระทบต่อทุกเซกเตอร์ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว และบริการ ซึ่งบริษัทอยู่ในกลุ่มการจำหน่ายสินค้าให้ธุรกิจโรงแรม และมีความเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ส่งผลให้ส่งมอบสินค้าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ดีบริษัทขอดูสถานการณ์ครึ่งปีแรกของปี 2563 ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร หลังจากนั้นจะปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งนี้ช่วงต้นปี 2563 บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมเติบโตราว 10-15% ต่อจากปีก่อนที่ 198.09 ล้านบาท สำหรับการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจะมาจากการขายสินค้าให้กับลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก 95% ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากทวีปอเมริกาที่ 45.06% ทวีปยุโรปที่ 36.54% ทวีปออสเตรเลีย 13.71% และทวีปเอเชียที่ 4.70% ส่วนที่เหลือ 5% จะมาจากการขานสินค้าในประเทศ ภายใต้บริษัท เซ็นทรัลฮอสพิแทลลิที จำกัด หรือ CHL

ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.8-3 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งเพียงพอต่อการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่าย อีกทั้งหากออเดอร์จากลูกค้าเพิ่มขึ้น บริษัทก็พร้อมจะขยายกำลังการผลิตอีก 10% เพื่อรองรับออเดอร์ที่จะเกิดขึ้นใหม่