ทันหุ้น – สู้โควิด – BTS ลั่นกระแสเงินสดแกร่งในวิกฤติ รับผู้โดยสารเม.ย.ลดแต่ผลกระทบน้อยเหตุถือใน BISGIF 33.33%  ขณะที่รายได้ O&M เป็นรายได้ประจำ เพิ่มขึ้นตามการเปิดสถานี ชี้การจราจรโล่งทำงานก่อสร้างเร็วกว่าปกติ มั่นใจเปิดถึงคูคตไตรมาส 4 ขณะที่ VGI ธุรกิจอี-เพย์เม้น และการตลาดออนไลน์ ขนส่งเคอรี่บูมชดเชยมีเดีย แจกปันผลพิเศษ0.15บาท

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัทบีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ระบุว่า ปัจจุบันบริษัทมีสภาพคล่อง และกระแสเงินสดหมุนเวียนที่แข็งแกร่ง ทุกกลุ่มธุรกิจยังคงสามารถดำเนินงานได้ในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI แม้ธุรกิจด้านมีเดียจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยภาพรวม แต่ธุรกิจเพย์เม้น ผ่านบัตร rabbit และ rabbit line pay มียอดเติบโต รวมถึง VGI Digital Lab ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจใหม่ที่ให้บริการการตลาดแบบออนไลน์ และธุรกิจขนส่งสินค้าผ่านเคอรี่ เอ็กเพรสก็ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

สำหรับธุรกิจรถไฟฟ้า รายได้จากธุรกิจงานเดินรถและบำรุงรักษาระบบ (O&M) ก็ยังคงเพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) ซึ่งรายได้ O&M นับเป็นรายได้ประจำที่ไม่ลดลง แต่เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการเปิดให้บริการแต่ละสถานี ส่วนรายได้จากค่าโดยสารที่ชะลอลง BTS ได้รับผลกระทบจำกัด เนื่องจากถือหุ้น BTSGIF ในสัดส่วน 33.33% ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านบริษัท ยูซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U นั้นทาง BTS Group ยังคงประคองธุรกิจไว้ พร้อมเปิดให้บริการธุรกิจโรงแรมเมื่อผ่านพ้นวิกฤติ

@งานก่อสร้างเร็วกว่าปกติ

ส่วนงานด้านการก่อสร้างทั้งสายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีทอง และสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สามารถดำเนินงานได้เร็วกว่าปกติเพราะการจราจรค่อนข้างโล่ง

นายสุรยุทธ กล่าวด้วยว่า บริษัทยังประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท จากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน (1เม.ย.-31ธ.ค.2562) และกำไรสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมายที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 21 เมษายน 2563 จ่ายเงินปันผลวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 เนื่องจากบริษัทมีกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินเพียงพอ ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทเห็นว่า การจ่ายเงินปันผลพิเศษดังกล่าวจะสามารถดูแลผู้ถือหุ้นได้อย่างทั่วถึง มากกว่า การซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินซึ่งดูแลเฉพาะผู้ถือหุ้นที่มีประสงค์จะขายหุ้นเท่านั้น

ยอมรับผู้โดยสารลดลง

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTSC) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า การเคอร์ฟิว 22.00-4.00 น. ทำให้บริษัทเดินรถได้ถึงเวลา 21.30 น. ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารประจำเดือนเมษายน 2563 ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2563 (MoM) และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ จำนวนผู้โดยสารจะเร่งตัวขึ้นและกลับเข้าสู่ระดับปกติได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้บริษัทยังคงดำเนินงานตามปกติทุกโครงการทั้งการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู, สายสีเหลือง, สายสีทอง, รวมถึงการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ในส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-คูคตภายในไตรมาส 4 นี้ โดย ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้นำรถไฟฟ้าบีทีเอส ขึ้นวิ่งทดสอบระบบการเดินรถ ใน 4 สถานีใหม่ ได้แก่ สถานีกรมป่าไม้ (N14) สถานีบางบัว (N15) สถานีกรมทหารราบที่ 11 (N16) สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (N17) เบื้องต้นมีกำหนดเปิดให้บริการช่วงเดือนมิถุนายน 2563 นี้