> SET > BBL

10 เมษายน 2020 เวลา 07:45 น.

แบงก์แห่หั่นดอกกู้0.40% BBL-TISCOยังห่างเป้า

ทันหุ้น-สู้โควิด-แบงก์แห่ลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.40% ช่วยผ่อนผลกระทบโควิด-19 เริ่ม 10 เม.ย. ด้านนักวิเคราะห์ประเมินกดดันผลประกอบการจำกัด เหตุธปท.ช่วยลดนำส่งเงินเข้า FIDF แต่เสี่ยงลดเป้ากำไร เลือกหุ้น BBL และ TISCO เป็นหุ้นเด่นยังห่างเป้า เฟ้นหุ้นรับโชคหั่นดอกเบี้ย เชื่อช่วยกดบาทอ่อน กลุ่มอาหาร ระยะกลางดี แนะสะสม CPF


นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.40% เพื่อช่วยบรรเทาภาระต้นทุนดอกเบี้ยของลูกค้าธนาคารฯโดยเร่งด่วนจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และตอบสนองนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)  ที่ได้ประกาศมาตรการปรับลดอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF) ลงเหลือ 0.23%


ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทแบบมีระยะเวลา หรือ MLR ปรับลดจาก 5.775% เป็น 5.375% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี หรือ MOR ปรับลดลงจาก 6.495% เป็น 6.095% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ปรับลดลงจาก 6.745% เป็น 6.345% มีผล 10 เมษายน 2563 เป็นต้นไป


“การปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจและลูกค้าสินเชื่อรายย่อย เพิ่มเติมจากมาตรการพักชำระหนี้เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และฝ่าวิกฤตนี้ไปได้”


ด้านนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารพร้อมสนับสนุนกลไกภาครัฐเพื่อช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR, MOR และ MRR ทันทีอีก 0.40% ปรับลดมาอยู่ที่ระดับ 5.60% , 6.22% และ 6.10% ตามลำดับ ทั้งนี้ธนาคารปรับลดเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเท่านั้น แต่ยังไม่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงแต่อย่างใด โดยจะมีผลตั้งแต่ 10 เมษายน 2563


นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ 3 ประเภท ลง 0.40% ทั้ง MLR, MOR และ MRRเป็นการให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการและประชาชนในเรื่องการลดต้นทุนด้านอัตราดอกเบี้ย


นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ MLR,MOR และ MRR ลง 0.40% โดย MLR จาก 6.65% เหลือ 6.25% MOR จาก 6.675% เหลือ 6.275% และ MRR จาก 7.03 เหลือ 6.63% นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือลุกค้า SMEเพิ่มเติม ประกอบด้วย ลูกค้า SME ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท สามารถพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน ตั้งแต่ เมษายน 2563 –กันยายน 2563 สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท ทางธนาคารสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (soft loan) วงเงินกู้ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ 31 ธันวาคม 2562 ด้วยอัตราดอกเบี้ย 2% เป็นเวลา 24 เดือน


**ผลกระทบไม่มาก


นายธนภัทร ฉัตรเสถียร ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า การที่ธนาคารพาณิชย์ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้รอบนี้อีก 0.40% ทำให้ส่งผลกระทบต่อผลดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาส 2/2563 เป็นต้นไป แต่ก็มองว่าผลกระทบดังกล่าวไม่มากนัก เพราะมีปัจจัยบวกมาชดเชย จากการที่ ธปท.ได้ลดอัตรานำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ ลงมาที่ 0.23% จากเดิม 0.46% ของฐานเงินฝาก เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยฐานเงินฝากจะใหญ่กว่าเงินที่ปล่อยสินเชื่อ นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ให้ดีขึ้นเล็กน้อยอีกด้วย


ประเมินว่าหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เป็นกลุ่มที่ลงทุนเพื่อรับเงินปันผลได้ แม้ในระยะสั้นผลประกอบการไตรมาส 1/2563 จะออกมาอ่อนแอก็ตาม และฝ่ายวิจัยทรีนีตี้ มีแนวโน้มจะปรับลดประมาณการลงอีก แต่ประเด็นดังกล่าวได้สะท้อนอยู่ในราคาไปพอสมควรแล้ว เลือกหุ้นเด่นที่แนะนำได้แก่หุ้น BBLเพราะมีฐานเงินฝากที่สูงจึงรับผลบวกมากสุดในกรณีที่ธปท.ลดอัตรานำเงินส่งกองทุนฟื้นฟูฯ ขณะที่ราคาปรับตัวลงมาเกือบต่ำที่สุดในกลุ่มแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 158 บาทต่อหุ้น และ TISCO ให้ราคาเป้าหมายที่ 102 บาทต่อหุ้น


นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แม้ว่าธปท.เข้ามาช่วยเหลือ ลดการนำส่งเงินเข้า FIDF และรับภาระลูกหนี้ไม่ให้เป็น NPLแต่กลุ่มนี้ยังคาดเดาได้ยาก จึงต้องติดตามโดยเฉพาะคุณภาพลูกหนี้ และยังมีความกังวลต่อการปรับลดประมาณการณ์กำไรลง


ส่วนการลดดอกเบี้ยถ้าสถานการณ์ปกติหุ้นที่จะได้รับประโยชน์คือหุ้นที่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อและการบริโภค แต่ด้วยสถานการณ์โควิดจึงทำให้ต้องติดตามว่าคุณภาพหนี้ที่ซื้อมาบริหารจัดการได้หรือไม่ และการซื้อเข้ามาด้วยราคาที่สูงหรือไม่จากการแข่งขันก่อนหน้า โดยการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ มีการช่วยเหลือของรัฐบาลและธปท. จึงมองว่าการลดดอกเบี้ยน่าจะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าและทำให้ภาคการส่งออกโดยเฉพาะอาหารขยายตลาดได้ แม้ว่าในระยะสั้นจะได้รับผลกระทบจากการลูกค้าโรงแรมและร้านอาหารปิดไป แต่ในด้านการส่งออกน่าจะชดเชยได้ โดยเลือก CPF เป็นหุ้นแนะนำ ราคาเหมาะสมที่ 31 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X