> mai > ATP30

09 เมษายน 2020 เวลา 17:37 น.

ATP30-KUMWEL-FTE หุ้นหลบภัยยามวิกฤต-ปันผลเกิน 5%

ในยุควิกฤตโควิด-19 ปั่นป่วนตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาสแรกอย่างหนัก ดัชนีหุ้นไทยหลุดหลักพัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องประกาศหยุดทำการซื้อ/ขายเป็นการชั่วคราว หรือ “เซอร์กิต เบรกเกอร์” เป็นระยะวลา 30 นาที ในรอบ 11 ปี


ราคาหุ้นทั้งใน SET และ mai ปรับลดลงกันถ้วนหน้า หลายตัวลดลงจนเริ่มต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน แต่ในวิกฤตนี้ ถือเป็นโอกาสของนักลงทุนระยะยาวที่สามารถรับความผันผวนระยะสั้นได้ และการเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดี จ่ายปันผลสม่ำเสมอ ก็ถือเป็นโบนัสท่ามกลางภาวะวิกฤตเช่นนี้


ในช่วงเดือน เม.ย-พ.ค. ตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่ฤดูกาลจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น โค้งสุดท้ายของนักลงทุนที่ยังมีโอกาสคว้าหุ้นพื้นฐานดี ปันผลสูงก่อนที่แต่ละบริษัทขึ้นเครื่องหมาย XD และจ่ายปันผลเป็นเงินสด สำหรับหุ้นที่เตรียมขึ้น XD ในเดือน เม.ย.นี้มีอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Yeild) สูงเกิน 5% ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมที่มีความแตกต่างกัน ประกอบด้วย


บมจ.ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง “FTE” อัตราการจ่ายเงินปันผลประมาณ 10% คิดจากเงินปันผลรอบผลการดำเนินงานปี 2562 ที่มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือหุ้นอีก 0.09 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 54.00 ล้านบาท จากที่ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.07 บาท/หุ้น หรือจำนวน 42.00 ล้านบาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562ให้แก่ผู้ถือจำนวน 96.00 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 93.70% ของกำไรสุทธิของบริษัทฯ หลังหักสำรองตามกฎหมาย เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 เม.ย. 63 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 29 เม.ย. 63


FTE หุ้นดับเพลิงกลุ่มพาณิชย์ ดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิงแบบครบวงจร ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ รวมถึงการให้บริการออกแบบ รับเหมา ติดตั้งระบบดับเพลิง และระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ทำรายได้นิวไฮได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้าจดทะเบียนใน SET เมื่อปี 2560 จนถึงปี 2562 มีรายได้รวม 986.74 1,028.96 และ 1,038.30 ตามลำดับ


FTE เป็นธุรกิจมีพื้นฐานแข็งแกร่ง เพราะอุปกรณ์และระบบดับเพลิง เป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกตึกทุกอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม จำเป็นต้องมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายควบคุมอาคาร กฏหมายควบคุมโรงงาน และข้อบังคับเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างอาคารต่างๆ


นอกจากนี้อุปกรณ์เกี่ยวกับระบบดับเพลิงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย จึงต้องผ่านการตรวจสอบและรับรองคุณภาพในระดับมาตรฐานสากล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ด้านการออกแบบและติดตั้งระบบดับเพลิงก็ต้องอาศัยความรู้ความสามารถด้านวิศวกรรม และต้องมีประสบการณ์ เพราะบางโครงการต้องอาศัยใบรับรองมาตรฐานต่างๆในการเข้ารับงาน ซึ่ง FTE มีการบริการที่ครบวงจรจึงทำให้ได้เปรียบในการแข่งขัน


ในปี 2563 บริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุกมากขึ้น ประกอบด้วย การขยายฐานลูกค้างานรับเหมาออกแบบติดตั้งระบบฯ โดยการเจาะกลุ่มหน่วยงานราชการ โรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงไม่พึ่งพาฐานลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และเน้นการรับงานโครงการขนาดใหญ่ อาทิ งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงสถานีไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. งานปรับปรุงระบบดับเพลิงสนามบินทั่วประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านงานขาย โดยเพิ่มทีมขายที่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งการเพิ่มผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ ครอบคลุมความต้องการใช้งานของกลุ่มลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายปี 63 รายได้เติบโตประมาณ 10% แตะ 1,275 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิ 12%


บมจ. เอทีพี30 “ATP30” อัตราการจ่ายเงินปันผลประมาณ 6-7% คิดจากเงินปันผลรอบผลการดำเนินงานปี 2562ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือหุ้นอีก 0.02 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 12.35 ล้านบาท จากที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.02บาท/หุ้น หรือจำนวน  12.35 ล้านบาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 ให้แก่ผู้ถือจำนวน 24.69 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 55.59% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 เม.ย. 63 กำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 30 เม.ย.63


ATP30 หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก รายได้ย้อนหลัง 3 ปีเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปี 2562 มีรายได้รวม 348.64 423.86 และ 458.89 ตามลำดับ


ATP30 มีจุดแข็งด้านการบริหารจัดการที่ดี การพัฒนาระบบการดำเนินงาน การควบคุมการเดินรถ และพัฒนาบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงที่ดีมากโดยการกระจายฐานลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้ผลกระทบที่อาจได้รับในการดำเนินธุรกิจของบางอุตสาหกรรมมีผลไม่มากต่อภาพรวมของลูกค้า อีกทั้งบริษัทมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าอีกมาก แค่เฉพาะในเขตภาคตะวันออกที่ดำเนินธุรกิจอยู่มีโรงงานกว่า 5,000 แห่ง และในปีนี้บริษัทขยายฐานลูกค้านอกเขตภาคตะวันออกไปยังจังหวัดสระบุรี ถือเป็นจุดเริ่มต้นและโอกาสในการรับงานเพิ่มขึ้นในอนาคต


ในปี 2563 บริษัทมุ่งเน้นที่ความสามารถการทำกำไร ควบคุมและพัฒนาการบริหารจัดการภายใน โดยมีแผนการเปลี่ยนมาใช้น้ำมัน B10 ตามที่รัฐมีนโยบายออกมาสนับสนุนเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ พัฒนา IOT เพื่อติดตามอายุการใช้งานต่างๆของตัวรถ ปรับปรุงความแข็งแกร่งและความสามารถในการบำรุงรักษารวมถึงการพัฒนาบุคลากร เพื่อรักษาคุณภาพในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง


บมจ. คัมเวล คอร์ปอเรชั่น “KUMWEL”  อัตราการจ่ายเงินปันผลประมาณ 9.4% คิดจากเงินปันผลรอบผลการดำเนินงานปี 2562ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาทต้อหุ้น


KUMWEL หุ้นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบป้องกันฟ้าผ่าและเตือนภัยฟ้าผ่าอย่างครบวงจรตามมาตรฐานสากล ภายใต้ตราสินค้า “Kumwell”เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2562 นับเป็นหุ้น IPO ที่เข้าซื้อขายวันแรกราคายืนเหนือราคาจอง ซึ่งพบว่าราคาหุ้นช่วงเปิดอยู่ที่ระดับ 1.24 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้นราว 12.73% จากราคาจองซื้อ IPO ที่ 1.10 บาท


และมีรายได้รวมย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ก่อนเข้าจดทะเบียนใน mai เมื่อปี2559 - 2561 มีรายได้รวมขณะที่ รายได้ 409.83 ล้านบาท 433.30 ล้านบาท 469.72 ล้านบาท ตามลำดับ และปีที่เข้าจดทะเบียนใน mai ปี 2562 มีรายได้รวม 437.97 ล้านบาท

KUMWEL ถือเป็นธุรกิจเดียวในเอเชียและอาเซียนที่สามารถผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า สายดินและฟ้าผ่า ที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงความหลากหลายและครบถ้วนของสินค้าที่ผลิตและจัดจำหน่ายกว่า 2,500 รายการ อ้างอิงตามมาตรฐานสากล และมีลูกค้าอยู่ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมในภาคการไฟฟ้า ภาคการคมนาคม ภาคอุตสาหกรรม และภาคสิ่งปลูกสร้างเป็นต้น ซึ่งบริษัทมีจุดเด่นที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีมาตรฐานเทียบเท่าในระดับสากลได้ ส่งผลให้บริษัทสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปในหลายภูมิภาคทั่วโลกได้


สำหรับกลยุทธ์ปี 2563  KUMWEL ยังคงเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ด้วยการรักษาและขยายฐานลูกค้าประมูลงานโครงการทุกกลุ่มทั้งภาครัฐและเอกชน พัฒนาธุรกิจบริการ เพิ่มช่องทางจัดจำหน่าย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบวงจร เพื่อเพิ่มปริมาณงานติดตั้งอุปกรณ์และระบบเตือนภัยฟ้าผ่า โดยเฉพาะสินค้านวัตกรรมใหม่ “Smart Lightning Management System” นวัตกรรมระบบป้องกันฟ้าผ่าแบบอัจฉริยะ


อีกทั้งบริษัทเริ่มดำเนินการปรับปรุงกระบวนการขายแบบเชิงรุกทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงปรับปรุงสายการผลิต ในการลดต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและความสามารถการทำกำไรสูงขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2563 เติบโต 15-20% หรือประมาณ 500 ล้านบาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X