ทันหุ้น –สู้โควิด –JMT ลั่นไตรมาสแรกยังไม่กระทบ จากโควิด-19 คาดเริ่มคลี่คลายได้เดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ เล็งทบทวนเป้าหมายการเติบโตใหม่ พร้อมคงเป้าวงเงิน 4,500 ล้านบาท ซื้อหนี้เข้ามาบริหารตามแผน จากปัจจุบันมีพอร์ตบริหารหนี้สะสม 177,000 ล้านบาท ล่าสุดประกาศเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้น จ่ายปันผลระหว่างกาล 0.30 บาทต่อหุ้น
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า บริษัทได้ประเมินสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรก ในกลุ่มธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ บริษัทให้บริการแก่ผู้ว่าจ้างที่เป็นสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการต่างๆ ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นนัยยะสำคัญ ซึ่งบริษัทเองได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด แม้ภาพรวมไม่ได้กระทบบริษัทโดยตรง เนื่องจากยังสามารถผลิตกระแสเงินสดและสร้างความมั่นคงของกำไรสุทธิได้อย่างแข็งแกร่ง
ส่วนภาพรวมธุรกิจยังเป็นทิศทางเดียวกับช่วงไตรมาสที่ 4/2562 ซึ่งบริษัทมองว่ากลุ่มธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ โดยซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน หรือบริษัทต่างๆ และนำมาบริหารจัดเก็บหนี้ น่าจะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดที่เกิดขึ้นต่ำกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ขณะที่แผนในระยะยาวบริษัทต้องประเมินผลอีกครั้งหากสถานการณ์คลี่คลาย ซึ่งหวังว่าจะเป็นช่วงเดือนมิถุนายน หรือเดือนกรกฎาคม อาจจะมีการทบทวนเป้าหมายการเติบโตอีกครั้ง
*จัดงบซื้อหนี้ตามแผน
ในปี 2563 บริษัทตั้งวงเงินซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มอีกประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้จากธนาคารพาณิชย์ และบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งนับตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้ประกาศปิดดีลการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพประเภทไม่มีหลักประกันเข้ามาบริหารมูลค่ารวมเกือบ 3,000 ล้านบาท ซื้อมูลหนี้เข้ามาบริหารแล้วบางส่วน ปัจจุบันมีพอร์ตบริหารหนี้สะสม 177,000 ล้านบาท และสามารถทยอยรับรู้รายได้จากกระแสเงินสดที่สามารถเก็บเข้ามาได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 ปี
ขณะที่สถานการณ์ในปัจจุบัน มองว่าจะมีแนวโน้ม NPL ในระบบน่าจะขยับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สถาบันการเงินจะมีการทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมามากขึ้น เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ บริษัทสามารถขยายพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพได้ โดยบริษัทถือว่า เป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจบริหารสินทรัพย์แบบไม่มีหลักประกัน และขยายมายังสินทรัพย์แบบมีหลักประกัน
สำหรับธุรกิจประกัน ภายใต้การบริหารของ บริษัท เจพี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อยที่ JMT ถือหุ้น 55% มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากเบี้ยประกันภัยเติบโตขึ้นและมีคุณภาพ โดยเฉพาะการตอบรับอย่างท่วมท้นของผลิตภัณฑ์ประกันภัยไวรัสโควิด-19 ในการนำเสนอช่องทางการขายของบริษัทในเครือ ประกอบกับ มองว่าการลดต้นทุนด้วยการปรับพอร์ตที่มีอัตราส่วนความเสียหาย และเพิ่มสินค้ากลุ่ม Non-motor ที่อัตรากำไรดีกว่าเพิ่มขึ้น เป็นอีกปัจจัยเสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทปีนี้
อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม