> SET > GULF

09 เมษายน 2020 เวลา 08:00 น.

GULFพาร์บาทสัปดาห์หน้า ชูปันผล1.30บ.จ่าย28เมษา

ทันหุ้น—ผู้ถือหุ้น GULF อนุมัติแตกพาร์จาก 5 บาทเหลือ  1 บาท มีผลสัปดาห์หน้า พร้อมปันผล 1.30 บาทต่อหุ้น ย้ำเดินหน้าธุรกิจตามแผน ปีนี้รายได้โต10% ปีหน้าแตะ 5 หมื่นล้านบาท โบรกคาด กำไรปีนี้ 4พันล้านบาท


นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวานนี้(8 เมษายน 2563)  ได้มีการอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 5 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของการซื้อขายหุ้นของบริษัท แก่นักลงทุน


ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อทุนจดทะเบียนทุนที่ออกและชำระแล้ว และสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นปัจจุบันแต่อย่างใด โดยทุนจะทะเบียนยังเท่าเดิมที่ 10,666,500,000 ล้านบาท แต่จำนวนหุ้นเปลี่ยนแปลงตามการเปลี่ยนพาร์ จาก2,133,300,000 หุ้น เป็น 10,666,500,000 หุ้น ทั้งนี้คาดว่ามีผลในช่วงสัปดาห์หน้า


ไฟเขียวแตกพาร์


พร้อมกันนี้ยังอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ประจำปีสิ้นสุดวันที่31ธันวาคม2562จากกำไรสุทธิและกำไรสะสมในอัตรา 1.30บาท ต่อหุ้น สำหรับจำนวนหุ้น 2,133,300,000 หุ้น รวมเป็นเงิน 2,773,290,000 บาทโดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันอังคารที่ 28 เมษายน 2563


ส่วนแผนธุรกิจยังเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้  สำหรับปีนี้บริษัทคงเป้ารายได้ปี2563 จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่ทำได้ 3.3 หมื่นล้านบาท จากการรับรู้โรงไฟฟ้าSPP ที่บริษัทจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ(COD) เพิ่มในปีที่ผ่านมาอีก 518 เมกะวัตต์ ทำให้ขณะนี้โรงไฟฟ้า SPP ของบริษัทจ่ายไฟฟ้าครบทั้ง 12 โครงการแล้ว


อีกทั้งในปีนี้บริษัทจะมีจ่ายไฟฟ้า อีกราว 55 เมกะวัตต์ ได้แก่โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล กัลฟ์ จะนะ กรีน กำลังการผลิตราว 25 เมกะวัตต์ ซึ่งCOD ไปแล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนามเฟส 1 ขนาด 30 เมกะวัตต์


ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิตรวมที่ 310 เมกะวัตต์ โดยเฟสที่เหลือจะทยอยจ่ายไฟฟ้าได้หมดในเดือนตุลาคมปี 2564 ขณะเดียวกันยังเดินหน้าศึกษาการลงทุนโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่อง และเดินหน้ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ โครงการมาบตาพุดเฟส 3 โครงการแหลมฉบังเฟส 3 รวมไปถึงโครงการมอเตอร์เวย์ ด้วย


ออกหุ้นกู้วงเงิน 1 หมื่นล.


พร้อมกันนี้ในช่วงกลางปียังมีแผนออกหุ้นกู้วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ช่วงกลางปี เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งบริษัทก็ให้ความเชื่อมั่นว่าธุรกิจของบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่อง มีสัญญาระยะยาวกับทางภาครัฐ ทั้งห่งประเทศไทยหรือกฟผ. การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และกรมทางหลวงเป็นต้น สะท้อนให้เห็ฯถึงกระแสเงินสดที่จะเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ


บริษัท หลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง GULF ว่าสำหรับราคาหุ้นที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นวานนี้น่าจะเป็นการตอบรับการที่ผู้ถือหุ้นมีการอนุมัติการแตกพาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มสภาพคล่องดีขึ้น แต่ในเชิงพื้นฐานไม่ได้รับผลกระทบไม่มีมีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ขณะที่กำไรปกติปี 2563 ประเมินกำไรปกติที่ราว 4.0 พันล้านบาท (เติบโต 15% ) โดย key driver หลักมาจากการรับรู้รายได้เต็มปีจากโครงการ SPP ในประเทศ 4 โครงการและโรงไฟฟ้า solar farm ในเวียดนาม 2 โครงการ กำลังการผลิตตามสัดส่วนรวม 448 เมกะวัตต์ ซึ่งทยอย COD ในปี 2562 และการเริ่มทยอย COD ของโรงไฟฟ้าในโอมานขนาดการผลิตตามสัดส่วนราว 147 เมกะวัตต์ ในปี 2563


ทั้งนี้ เคาะราคาเป้าหมายที่ 172.00 บาท  Key catalyst คือโครงการใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาทั้งในและต่างประเทศ (โรงไฟฟ้าและโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่น) โดยหากสำเร็จจะเป็น potential upside ให้กับราคาหุ้นอีกราว 27.00 บาท ซึ่งหากรวมเข้ามาจะทำให้ best case target price อยู่ที่ 199.00 บาท (Fig 1 valuation table) ทั้งนี้บริษัทประกาศจ่ายปันผล 1.30 บาทต่อหุ้น

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X