ทันหุ้น –สู้โควิด – RJH มองผลงานไตรมาส 1/2563 ยังทรงตัวดี อัตราการใช้พื้นที่เตียง 2 เดือนแรกปีนี้พุ่ง 80% พร้อมตั้งรับสูhโควิด-19 เชื่อระยะสั่นความจำเป็นรักษาโรคยังมีสูงกว่า คุมเข้มต้นทุนค่าใช้จ่ายป้องกันความเสี่ยงวิกฤตที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คงเป้ารายได้รวมปี 2563 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปีก่อน

นายแพทย์สุรินทร์ ประสิทธิ์หิรัญ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา เป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม ตลอดจนเศรษฐกิจในประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์หลังของเดือนมีนาคม 2563 ประกอบกับนโยบายอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติส่งผลให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเฉพาะโรงพยาบาลมากขึ้น ทำให้กลุ่มคนไข้ทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) คิดเป็นสัดส่วน 40-45% ของคนไข้รวม และผู้ป่วยใน (IPD) คิดเป็นสัดส่วน 55-60% ปรับตัวลดลง

*ผู้ป่วยประกันสังคมพุ่ง

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าจะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 เท่านั้น เนื่องจากแม้ว่าผู้ป่วยเงินสดจะมีการเข้ารับการรักษาลดลง แต่มองว่ารายได้จากผู้ป่วยที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคมจะสามารถเข้ามาช่วยชดเชยในส่วยที่หายไปได้ อีกทั้งเชื่อว่าภาวะตื่นตระหนกนั้นจะเริ่มดีขึ้น เพราะไม่ว่าอย่างไรการรักษาโรคก็เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ดังนั้น ในขณะนี้บริษัทจึงยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2563 ไว้เช่นเดิม ไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,901.82 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้ปรับกลยุทธ์ภายในองค์กรใหม่ ทั้งการจัดตารางเวลาขึ้นวอร์ด ลดปริมาณการเข้าเวรนอกเวลาของบุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และใช้ทรัพยากรภายในองค์กรให้มีความเหมาะสม เพื่อรักษาระดับการทำกำไรให้ดีแม้ว่ารายได้จะลดลงตามสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยเช่นนี้

*ไตรมาส 1/2563 ยังโต

ในภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 ยังมีการเติบโตทรงตัวที่ดีกว่าปีก่อน หลักๆ เป็นผลมาจากการเพิ่มเตียงผู้ป่วยมากขึ้นทำให้สามารถรองรับการรักษาและบริการได้เพิ่มขึ้น ทำให้ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 ผลการดำเนินงานยังมีการเติบโตที่ดี โดยบริษัทมีอัตราการใช้พื้นที่เตียง (Occupancy rate) เฉลี่ยสูงกว่า 80% ของพื้นที่เตียงทั้งหมด

ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เป็นครั้งแรกที่เดือนมีนาคม 2563 ลูกค้าเงินสดหดตัวลง 10% (แม้เดือนมกราคม และ กุมภาพันธ์ 2563 จะเติบโตดีแบบตัวเลข 2 หลัก) จากได้รับผลกระทบ COVID-19 ทั้งจากกำลังซื้อที่หดตัวลงและหลีกเลี่ยงเดินทางเข้ามาโรงพยาบาลเพราะกลัวติดเชื้อส่งผลให้รายได้เงินสดเติบโตชะลอลง

ในขณะที่สปส. แม้ปรับขึ้นค่ารักษาใหม่ ประกอบกับจำนวนผู้ประกันตน เพิ่มขึ้น 3- 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ใกล้เคียงสิ้นปี 2562 ที่ 1.91 แสนราย แต่คาดเติบโตไม่มากจากปีก่อนมีรายการตรวจสุขภาพและผ่าตัดประกันสังคม ส่งผลให้ในไตรมาส 1/2563 แม้ดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้า แต่ทรงตัวเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมของทางฝ่าย

*แนะซื้อเป้า 28 บาท

นอกจากนี้ จากการเปิดศูนย์ฟอกไตแล้วในเดือนมีนาคม 2563 และพร้อมกับจะเปิดศูนย์มะเร็งในไตรมาส 2/2563 ทว่าศูนย์ทรอม่าจะกลับมาเปิดอีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลาย มองช่วงที่เหลือของปีเติบโตน้อยกว่าคาดจากได้รับผลกระทบต่อเนื่องจาก COVID-19 ทำให้ประชาชนระมัดระวังใช้จ่ายและมีแนวโน้มเข้าใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนลดลง ทางฝ่ายจึงได้มีการปรับลดประมาณการลง 18.7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน (กำไรปกติเพิ่มขึ้น 8.3%) โดยประเมินราคาพื้นฐานใหม่ที่ 28 บาท และยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" อย่างไรก็ดี โครงการโรงพยาบาลแห่งใหม่ ทั้งราชธานี และราชธานีหนองแขม จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/2563 คาดเปิดบริการได้ในปี 2565

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1