> SET >

03 เมษายน 2020 เวลา 08:45 น.

ฉีดมาตรการศก.รอบ3 ธุรกิจ-ตลาดทุนมีเอี่ยว

ทันหุ้น-สู้โควิด-รองนายกฯแย้มประชุม ครม. นัดพิเศษ เพื่อออกมาตรการอุ้มเศรษฐกิจเฟส3จะเดินหน้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม รวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ รายเล็ก การดูแลเสถียรภาพตลาดเงินตลาดทุน ชี้ดูแลได้ถึง 6 เดือน


ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ทั้งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประเมินว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยขณะนี้ จำเป็นต้องเร่งออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจชุดที่ 3 ซึ่งครอบคลุมทุกกลุ่มทั้งประชาชน และกลุ่มเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็ก รวมถึงมาตรการในการดูแลเสถียรภาพตลาดเงินและตลาดทุน เนื่องจากภาพเศรษฐกิจจริงถูกโยงไปกับภาคตลาดเงินและตลาดทุน


โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 3 จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วาระพิเศษได้พิจารณาในการประชุมในวันนี้ (3 เม.ย.) เพื่อให้เห็นชอบในหลักการว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวจะเข้ามาดูแลในส่วนใด จำนวนงบประมาณที่ต้องใช้ รวมถึงการจัดหาแหล่งเงิน ซึ่งจะมีทั้งการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ใเพื่อนำมาใช้ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ หลังจากนั้นจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.อังคารหน้า (7 เม.ย.) ได้พิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 จะสามารถดูแลเศรษฐกิจไทยได้อีก 6 เดือน ผู้ประกอบการสามารถอยู่ต่อไปได้ โดยที่ยังรักษาสถานะการจ้างงานไว้ได้ และเสถียรภาพด้านตลาดเงินและตลาดทุนจะมีความมั่นคง เป็นเรื่องที่รัฐบาลมองไปข้างหน้า เป็นการเตรียมพร้อมไว้


ด้านแหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังพร้อมที่จะออกมาตรการให้ครอบคลุมทุกกลุ่มซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งมาตรการดูแลเศรษฐกิจชุดที่ 1-2 ที่ผ่านมาได้ดูแลกลับผู้มีรายได้น้อยแล้ว กลุ่มในระบบและนอกระบบแล้ว ยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่นอกเหนืออีก ดังนั้นคลังจึงพร้อมที่จะฉีดมาตรการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องติดตามต่อไป 


ทั้งนี้กระทรวงการคลังประเมินว่า ปัจจุบันฐานะการคลังยังคงมั่นคง และมีหนี้สินต่อจีดีพีไม่ได้สูงมาก ดังนั้นการที่จะออก พ.ร.ก.กู้เงิน ราว 2 แสนล้านบาท มาเป็นสิ่งที่ดำเนินการได้ ไม่ติดขัด แต่มาตรการต่างๆ ต้องรักษาสมดุลด้วย


บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดกลับมาให้น้ำหนักการประชุม ครม.นัดพิเศษมีประเด็นสำคัญ คือ มาตรการพยุงเศรษฐกิจ เฟส 3-4 ที่จะรัฐบาลคาดจะมีออกมาในช่วง เดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม โดยจะหารือประเด็นงบประมาณ กรอบวงเงินงบประมาณ และการจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน โดยเม็ดเงินรวมกันจะมีมากกว่ารอบ 1 และ 2 มีโอกาสสูงจะเดินหน้าเพิ่มทั้งจำนวนคนที่จะได้รับเงิน จากมาตรการอัดฉีดเงิน 5 พัน /คนนาน 3 เดือน โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการนี้คือ กลุ่มค้าปลีก คือ CPALL

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X