ทันหุ้น-สู้โควิด-บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซียไซรัสจำกัด(มหาชน) ระบุถึงLOXLEY ว่าฐานะการเงินอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้แม้ว่าหนี้สินรวมสิ้นปี2562 จะเพิ่มขึ้น 2พันล้านบาทเป็น 1.12หมื่นล้านบาท แต่ประมาณ 45%เป็นหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย โดยเงินกู้ระยะยาวและหุ้นกู้ลดลงจากปีก่อน

ส่วนเงินกู้ระยะสั้นเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากแต่เป็น Project finance จากการได้รับโครงการใหม่ๆในปีที่ผ่านมา จึงไม่น่ากังวล ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้การค้า อัตราส่วน IBD/E ของ LOXLEY อยู่ที่ 1.03เท่า ต่ำกว่า Debtcovenant ของสถาบันการเงินที่กำหนดไว้ไม่เกิน 2.5เท่าอยู่มาก

ปัจจุบันธุรกิจของ LOXLEY ยังไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทุกอย่างยังเป็นไปตามประมาณการของบริษัท ทั้งธุรกิจ IT, Network Solutions, ธุรกิจพลังงาน (EPC) ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับการก่อสร้าง งานติดตั้งระบบไม่มีการล่าช้า ในส่วนธุรกิจอาหารนั้น สินค้าประเภทข้าวและสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้อานิสงส์จากการที่ผู้บริโภคกักตุนสินค้าในช่วงเดือน มี.ค. แต่ถูกหักล้างด้วยลูกค้าในกลุ่ม Horeca ที่ลดลง 

ทั้งนี้ผลกระทบในเดือน เม.ย. คาดว่าจะมีมากขึ้นในกลุ่มอาหารรวมถึงธุรกิจอื่น หลังรัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ปิดสถานที่เสี่ยงและรณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้านถึง 30 เม.ย. นี้

ปรับลดกำรปี 2563 สะท้อนอัตรากำไรขั้นต้น

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2020ลงจากเดิม 68% เหลือ 58.5 ล้านบาท จากการปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิมคาด 13.9%เหลือ 12.8% เนื่องจากบริษัทยังเหลืองานติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าในสนามบินสุวรรณภูมิที่ต้องส่งมอบในปีนี้ ซึ่งเป็นงานที่อัตรากำไรเป็น 0% จึงฉุดอัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมลดลงในส่วนของรายได้ก็ปรับประมาณการลง 9%เป็น 1.27 หมื่นล้านบาท หดตัว 6.5% Y-Y (เดิมคาด+3% Y-Y) เนื่องจาก ณ สิ้นปี 2562 LOXLEY มี Backlog 1.42 หมื่นล้านบาท จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 62%หรือ 8.8 พันล้านบาท ขณะที่งานส่วนอื่นที่ไม่ได้อยู่ใน Backlog แต่มักได้รับการต่อสัญญาเช่น งานแม่บ้าน งานรักษาความปลอดภัยตามอาคารส านักงาน เป็นต้น แต่เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปกติ ลูกค้าอาจต่อรอง หรือเลื่อนจ่ายเงิน

จึงปรับลดประมาณการรายได้ในส่วนนี้เพื่อความระมัดระวัง ทำให้ Backlog ที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ secured ประมาณการรายได้ของเราแล้ว 70%นอกจากนี้บริษัทยังเข้าร่วมประมูลงานอีกราว 9 พันล้านบาทราวครึ่งหนึ่งเป็นธุรกิจ IT เช่น ให้บริการ Solutions แก่ธนาคารพาณิชย์ ติดตั้งระบบไอทีแก่หน่วยงานราชการเป็นต้น ซึ่งเป็นสายงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ

สำหรับผลประกอบการปี2564เราไม่ได้ปรับประมาณการอย่างมีนัยสำคัญโดยอยู่บนสมมติฐานผลกระทบที่รุนแรงของ COVID-19จบลงในปี 2563 แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างช้าๆในปี 2564แต่การลงทุนด้านไอทีและการประมูลงานโครงการต่างๆของภาครัฐและเอกชนเป็นสิ่งจำเป็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงคาดว่าผลประกอบการปี 2563ของ LOXLEY จะฟื้นตัวสดใสมากขึ้นตามภาวะอุตสาหกรรม

ปรับลดราคาเป้าหมายปี2563เป็น 1.70 บาท

ปรับราคาเป้าหมายปี2563 ลงเป็น 1.70 บาท จากเดิม 2.20บาท โดยเปลี่ยนวิธีประเมินมูลค่าหุ้นจากเดิมที่อิง PE 17 เท่า เท่ากับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม SI เป็น PBV 0.8 เท่า เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรที่อ่อนแอกว่ากลุ่มมาก แม้บริษัทจะผ่านการปรับโครงสร้างองค์กรมาแล้วหลายครั้ง แต่ค่าใช้จ่ายพนักงานของกลุ่มบริษัทที่แม้จะปรับลงแต่ยังมีจำนวนสูงกว่า 2พันล้านบาท ในขณะที่รายได้ในแต่ละปีไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 1.3หมื่นล้านบาทต่อปี แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงแทบทุกปี ทำให้กำไรสุทธิผันผวนและมีโอกาสขาดทุนได้ไม่ยากนัก

ประกอบกับผลประกอบการในปี 2563  ยังไม่ปกติเพราะมีส่วนที่ถูกกระทบจากโครงการที่ตั้งสำรองขาดทุนในปีก่อน ดังนั้น วิธีการประเมินมูลค่ากิจการแบบ Asset based น่าจะเหมาะกับสถานการณ์ ปัจจุบันของ LOXLEY มากกว่าวิธี PER เราประเมิน PBV 0.8 เท่า เท่ากับ -1SD ของค่าเฉลี่ยในรอบ 20 ปี ได้เท่ากับ 1.70 บาท ทั้งนี้ราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ซื้อขายที่ 2020 PBV เพียง 0.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1SD

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1