ทันหุ้น –สู้โควิด – AQUA ระบุยังไม่เห็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เนื่องจากเป็นการเซ็นสัญญาระยะยาว ปัจจุบันยังมีลูกค้าในมือต่อเนื่อง เตรียมแผนชะลอการลงทุนและบริหารต้นทุนเพื่อรักษาอัตราการเติบโต พร้อมประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 ย้ำเป้าการเติบโตปีนี้ไม่ต่ำกว่า 8%

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค-ก.พ.63) บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัท มีระยะเวลาเซ็นสัญญาเบื้องต้นช่วง 3-6 เดือน ซึ่งปัจจุบันยังมีลูกค้าในมือ และมีการพูดคุยกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และได้ปรับเปลี่ยนชื่อในการให้บริการ ภายใต้ชื่อ “AQUA” เพียงชื่อเดียว ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยปรับสัญลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูทันสมัยตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น และจะทยอยปรับให้ทุกหน้าป้ายโฆษณาให้เสร็จสิ้นภายในต้นปี 2563 นี้

สำหรับแผนการรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในระยะถัดไปบริษัทได้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาการเติบโตของธุรกิจ พร้อมประเมินผลกระทบรวมถึงตัวเลขการเติบโตอีกครั้งหนึ่งในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.2563

*ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 8%

สำหรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2563 บริษัทยังย้ำเป้าการเติบโตไว้ที่ 8% จากปีก่อนที่มีรายรวมได้ 1,266.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.40% และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน EPCO จำนวน 267.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 96.44% ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิประจำปีจากงบการเงินรวม จำนวน 567.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 169.78 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 42.66%

โดยมาจากธุรกิจสื่อป้ายโฆษณาที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทมีรายได้บริการ 809.23 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 113.55 ล้านบาท คิดเป็น16.32% เมื่อเทียบกับปี 2561, ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าและบริการ มีรายได้ 271.04 ล้านบาท ลดลง 18.36 ล้านบาทคิดเป็น6.34 % เมื่อเทียบกับปี 2561 เนื่องจากคลังสินค้า 1 แห่งของ AWH อยู่ระหว่างการจัดหาผู้เช่ารายใหม่, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนของมันตรา มีรายได้ 66.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.12 ล้านบาท ตามสัญญาเช่าและบริการ และ ธุรกิจโรงพิมพ์และพลังงานทดแทน มีรายได้1,530.27 ล่านบาท (ปันส่วนตามสัดส่วนการถือหุ้น) เพิ่มขึ้น 543 ล้านบาท คิดเป็น 55% เมื่อเทียบกับปี 2561

*จ่ายปันผล 0.03 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ดีในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานปี 2562 และกำไรสะสม เป็นสำรองตามกฎหมายจำนวน 7,252,105.26 บาท และการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 137,790,000 บาท(จำนวนหุ้นที่ได้รับปันผลครั้งนี้ 4,593,000,000 หุ้น) ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลคิดเป็น 118.52% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมายของงบการเงินเฉพาะกิจการ และกำหนดให้วันที่ 22 เมษายน 2563 เป็นวันให้สิทธิผู้ถือหุ้น (“Record Date”) ในการรับเงินปันผล โดยให้จ่ายเงินปันผลดังกล่าวแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 พฤษภาคม 2563

รวมทั้งมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 688,950,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,985,450,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 2,296,500,000 บาท หรือเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,377,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งเป็นส่วนที่ขอเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จากการประชุมครั้งก่อน

ซึ่งในปี 2562 บริษัทมีผลกำไรจากการดำเนินงานทะลุ 500 ล้านบาทเป็นครั้งแรก จากธุรกิจหลักคือป้ายโฆษณา บริหารอสังหาริมทรัพย์ และส่วนแบ่งกำไรจาก EPCO ที่มีรายได้หลักจากธุรกิจพลังงาน ที่มีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยมาก และการจ่ายเงินปันผล 0.03 บาทต่อหุ้นในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 5.26% ซึ่งสูงที่สุด เท่าที่เคยจ่ายมา

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1