> SET > LOXLEY

31 มีนาคม 2020 เวลา 08:45 น.

LOXLEY 2 เดือนแรกยังโต เทรดดิ้ง ‘Non-Food’ บูม

ทันหุ้น –สู้โควิด – LOXLEY มองผลงาน 2 เดือนแรกปี 2563 ยังโดดเด่น แม้ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก ธุรกิจเทรดดิ้งเฉิดฉายยอดขายน้ำมันกุ๊กถล่มทลาย ชูความหลากหลายทางธุรกิจเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยง ด้านหวยออนไลน์ยังไม่ได้ข้อสรุป-ต้องจับตารอดูต่อไปอคงเป้ารายได้รวมปีนี้แตะ 1.5 หมื่นล้านบาท


ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดเผยว่า กรณีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ขยายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้นนั้น ไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 อีกทั้งยังมีการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากธุรกิจบริการอาหารและการจำหน่าย (Tranding) โดยเฉพาะสินค้าบริโภค เพราะผู้บริโภคเริ่มกักตุนสินค้าทำให้น้ำมันกุ๊กมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


*ในวิกฤตมีโอกาส


ประกอบกับจากความต้องการแอลกอฮอลและเจลล้างมือที่เพิ่มสูงนั้น มองว่าช่วยเอื้อต่อส่วนธุรกิจเทรนดิ้ง (Non-Food) อีกด้วย เพราะมีการจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม เป็นต้น ตลอดจนธุรกิจบริการ โดยเฉพาะให้บริการด้านระบบรักษาความปลอดภัย กลับเป็นที่ต้องการตามอาคารและสำนักงานมากขึ้น เพราะต้องมีการตรวจวัดไข้และคัดกรองผู้ที่มีอุณหภูมิสูงเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19


ส่วนธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT), ธุรกิจเน็ตเวิร์คโซลูชั่นส์ (Network solution) และธุรกิจพลังงาน (Energy) ที่อยู่ระหว่างการยื่นเสนอราคางานโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ นั้น อาจต้องให้การจับตารอดูต่อไปว่าภาครัฐจะยังคงมีการลงทุนต่อไปหรือไม่ เนื่องจากการเกิดวิกฤตไวรัสระบาดในครั้งนี้สร้างความเสียหายให้กับสภาพเศรษฐกิจในประเทศไม่น้อย รัฐอาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบลงทุนจัดการกับสถานการณ์ในปัจจุบันก่อน


ขณะที่กรณีคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเตรียมพิจารณาเปลี่ยนมาใช้ระบบออนไลน์ในการจำหน่ายสลาก หากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ยืดเยื้อนานเกิน 2 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงของผู้ค้าสลากฯ แบบใบกับผู้ซื้อสลากฯนั้น ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใดใดแต่หากมีการเปลี่ยนมาใช้ระบบออนไลน์จริงทางบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด หรือ LGT ในฐานะคู่สัญญากับสำนักงานสลากฯ ยืนยันความพร้อมที่จะสานต่อโครงการจำหน่ายสลากออนไลน์ได้ทันที และยินดีให้ความร่วมมือกับสำนักงานสลากฯ อย่างเต็มที่ แม้ว่าจะยังมีคดีความฟ้องร้องอยู่ในชั้นศาลปกครองสูงสุดก็ตาม


*รุกชิงงานตุนพอร์ต


สำหรับทิศทางธุรกิจของบริษัทนั้น เบื้องต้นบริษัทยังคงวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมในปี 2563 ไว้เช่นเดิมที่แตะระดับ 14,000-15,000 ล้านบาท หรือไม่น้อยกว่า 7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน หลักๆเนื่องมาจากบริษัทยังมีงานในโครงการทั้งที่เป็นกลุ่มงาน High Potential และงาน Potential ในมือที่รอการทยอยส่งมอบ (Backlog) อีกกว่า 8,000 - 9,000 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ Backlog เข้ามาเป็นรายได้เข้ามาในปี 2563 นี้เกือบทั้งหมด ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าหากสถานการณ์โรคระบาดยังยืดเยื้อต่อไป ภายในช่วงกลางปีนี้อาจีการทบทวนเป้าหมายการดำเนินงานใหม่อีกครั้ง


อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความสนใจและมองหาโอกาสในการเข้าร่วมประมูลงานทั้งในกลุ่มงาน High Potential ที่มีมาร์จิ้นสูง และงานโครงการ Potential อย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท เบื้องต้นบริษัทคาดหวังว่าจะได้รับงานประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท หรือไม่น้อยกว่า 30% ของมูลค่างานทั้งหมด ส่วนเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นต่องานที่จะเข้าประมูลนั้นบริษัทคาดหวังไว้ที่ระดับ 10-12% จากงานโครงการขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนงานที่มากกว่า 500-600 ล้านบาท ที่เป็นงานขนาดกลางจะมีอัตรากำไรอยู่ที่ 15-20%

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X