ทันหุ้น –สู้โควิด –KBS โดดรับไฮซีซัน หนุนผลงานไตรมาสแรกแจ่ม เดินหน้าตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่าราว 2.8 พันล้านบาท คาดชัดเจนช่วงไตรมาส 2/2563 นี้ แถมคุมเข้มพนักงานเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง-ตรวจไข้ก่อนเข้าอาหาร หวังป้องกันปัญหาในอนาคต

นายอิสสระ ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลงานในไตรมาส 1/2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงไตรมาส 4/2562 เนื่องจากได้รับปัจจัยจากเข้าสู่ช่วงฤดูกาลขาย (ไฮซีซัน) ของอุตสาหกรรมน้ำตาล ซึ่งส่งผลให้แนวโน้มคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) น้ำตาลจากลูกค้าในกลุ่มต่างๆ นั้นปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ KBS ในส่วนของธุรกิจน้ำตาลนั้นแบ่งเป็น การผลิตและจัดจำหน่ายเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศประมาณ 50%, ขายให้กับลูกค้าในไทยอีก 50% รวมทั้งธุรกิจมีแนวทางขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

ลุยต้องกอง KBSPIF

นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างรอการอนุมัติแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลครบุรี (KBSPIF) จำนวนไม่เกิน 2,800 ล้านบาท เพื่อระดมเงินไปลงทุนในโรงงานน้ำตาล กำลังการผลิต 12,000 ตันอ้อยต่อปี และโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งใหม่ ที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา รวมถึงโครงการอื่นที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่ม KBS เบื้องต้นหวังได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวรายละเอียดต่างๆ ไม่เกินไตรมาส 2/2563

ส่วนในแง่ของแนวทางการบริหารงานปี 2563 ยังมุ่งให้ความสำคัญกับการพยายามควบคุมต้นทุนในส่วนต่างๆ ให้มีประสิทธิ์ภาพ ซึ่งทำควบคู่ไปกับการนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตมาสร้างรายได้เชิงธุรกิจ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลที่ใช้กากอ้อยเป็นเชื้อเพลิง ดำเนินการโดย บริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี (KPP) จำกัด ที่ KBS ถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 99.99%

*บาทอ่อนค่าหนุน

สำหรับ KKP นั้นปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 73 เมกะวัตต์ ซึ่งมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 22 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 16 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือเป็นการผลิตไฟฟ้าให้กับโรงานน้ำตาลและกระบวนการผลิตของกลุ่มบริษัท

ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องจนล่าสุดมาอยู่ที่ราว 32.29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (อิงข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย ณ 17 มีนาคม 2563) บริษัทประเมินน่าจะเป็นผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะช่วยสนับสนุนให้รายได้จากการขายสินค้าไปยังต่างประเทศขยับสูงขึ้น

*ทุ่ม 4 พันล้านขยายธุรกิจ

นายอิสสระ กล่าวเสริมว่า ในแง่ประเด็นเกี่ยวกับปัญหาโรคระบาดไวรัสโควิด 19 (COVID 19) ที่เกิดขึ้นนั้นบริษัทเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการออกมาตรการเพื่อแจ้งเตือนพนักงานไม่ให้เข้าไปในพื้นฐานที่เสี่ยง ประกอบกับจะมีการตรวจวัดไข้และอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ เจลล้างมือ ฯลน เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคตต่อไป

อนึ่ง ในปี 2563 ทาง KBS ได้วางงบลงทุนไว้ราว 4 พันล้านบาท เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจในด้านต่างๆ แบ่งเป็น การสร้างโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีม ขนาดกำลังการผลิต 1-1.2 ล้านตัน/ปี อยู่ที่ราว 3 พันล้านบาท (คาดสร้างเสร็จปี 2563 และรับรู้รายได้ปี 2564), ก่อสร้างโรงงฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังผลิต 18 เมกะวัตต์อีก 1 พันล้านบาท รองรับการผลิตไฟฟ้าจากผลพลอยได้ของโรงงานน้ำตาลดังกล่าวด้วย

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1