> อาหารสมอง >

12 มีนาคม 2020 เวลา 13:47 น.

สงครามราคาน้ำมัน...ส่งผลต่อธุรกิจ.... ทุบราคาน้ำมันร่วง 25% ต่ำสุดรอบ 4ปี

 หลังการประชุมโอเปกและพันธมิตรที่กรุงเวียนนา เมื่อวันที่ 6มี.ค.ที่ผ่านมา ทางรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรหลักและเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่รองจากสหรัฐฯ กลับไม่เห็นพ้องกับมติการประชุมในรอบนี้ที่โอเปกต้องการให้ลดการผลิตต่อ ส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียตอบโต้จนกลายเป็นสงครามราคาน้ำมันรัสเซียร่วมมือกับโอเปกในการควบคุมการผลิตเป็นระยะเวลากว่า 3 ปีมาแล้ว เพื่อพยุงราคาน้ำมันที่ลดลงจากอุปทานน้ำมันส่วนเกินจากการผลิตของสหรัฐฯ แต่การผลิต Shale  Oil ของสหรัฐฯ กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 11 %ต่อปี ในช่วงปี 2016-2019 ซึ่ง คาดว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รัสเซียไม่ต้องการลดการผลิตต่อท่าทีของรัสเซียทำให้ทางซาอุดิอาระเบียตอบโต้ด้วยการจะเพิ่มการผลิตน้ำมันเป็น 12ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และประกาศลดราคาน้ำมัน กดดันให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในวันที่ 9 มี.ค. ปรับลงมาอยู่ที่ 34.1 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล จาก 45.3 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 6 มี.ค. หรือลดลงราว 25% เพราะตลาดกังวลว่าจะกลายเป็นสงครามราคา


สงครามราคาน้ำมันจะนานแค่ไหน?


นักวิเคราะห์ต่างประเทศ มองว่าสงครามราคาน่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 โดยคาดว่าหลังจากนั้นกลุ่มโอเปคและพันธมิตรน่าจะกลับมาลดการผลิตเพื่อพยุงราคา ท่ามกลางที่อุปสงค์น้ำมันของโลกมีแนวโน้มลดลง โดย Bloomberg และ โกลด์แมน แซคส์ คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลง 20-30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต้นทุน การขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ และรัสเซีย (36และ 17ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล ตามลำดับจากข้อมูลของ IEAIEAIEA) ประเมิน ในปี 2020 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเฉลี่ยอยู่ที่ 47 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หากราคาน้ำมันหดตัว 30% เพียงในไตรมาสที่ 2 แต่หากสงครามราคากินเวลา 2 ไตรมาส จะกดดันให้ราคาน้ำมันเบรนท์เฉลี่ยอยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล


ผลกระทบด้านลบจากสงครามราคาน้ำมัน


การส่งออกสินค้าไปตะวันออกกลาง การส่งออกไปตะวันออกกลางอาจได้รับผลกระทบ ในปี 2019 การส่งออกไปตะวันออกลางมีสัดส่วนอยู่ที่ 3.4% ของ การส่งออกสินค้าทั่วโลก และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบมีสัดส่วนเฉลี่ยถึง 30.0% จากการส่งออกสินค้าทั้งหมดไปตะวันออกกลาง โดยสินค้าหลักในหมวดนี้ คือ รถปิกอัพ 1ตัน ที่ในปี 2018มีสัดส่วนถึง 66% ของการส่งออกรถยนต์ทุกประเภท

จับตาการส่งออกรถยนต์ ปิกอัพ 1 ตัน เพราะราคาน้ำมันมีผลต่อการนาเข้ารถยนต์จากไทยค่อนข้างมาก โดยพบว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกับการนาเข้าสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบจากไทย ซึ่งมีค่า Correlation  ถึง 0.43 และเมื่อย้อนกลับไปในปี 2016 ที่ราคาน้ำมันลดลงต่าในช่วง 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงต้นปี พบว่าการส่งออกรถยนต์ไปตะวันออกกลางในปีนั้นหดตัวถึง 20.1%

การส่งออกสินค้าไปแอฟริกา


แอฟริกามีบทบาทสำคัญในตลาดส่งออกสินค้าเกษตรไทย โดยเฉพาะข้าว คิดเป็น 66.7% ของตลาดส่งออกสินค้าเกษตรรวมไปแอฟริกา ในปี 2019 โดยไทยส่งออกข้าวไปแอฟริกา 4.1 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 54.2 % ของปริมาณส่งออกข้าวไทยทั้งหมด โดยตลาดส่งออกข้าวไทยในแอฟริกาเป็นข้าวนึ่งมากที่สุด 46.3% รองลงมาเป็นข้าวขาว 32.5% โดยประเทศผู้นำเข้าหลัก ได้แก่ เบนิน ไนจีเรีย และแอฟริกาใต้


ขณะที่การลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก ทำให้รายได้จากการส่งออกน้ามันดิบ ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศในแถบนี้ลดลงกว่า 50% ส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของไทย โดยจะเห็นจากในปี 2015ที่ราคาน้ามันตลาดโลกลดลงค่อนข้างมาก ทำให้การส่งออกข้าวไทยไปแอฟริกามีปริมาณและมูลค่าลดลง 25.8%และ 27.3%  โดยการส่งออกข้าวนึ่งซึ่งมีแอฟริกาเป็นตลาดหลักถึง 81% มีปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงถึง 34.7%และ 39.6%ส่วนข้าวขาวซึ่งตลาดแอฟริกามีสัดส่วนส่งออก 42% มีปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลง 21.4%และ 21.2 % ตามลาดับ

หากสถานการณ์รุนแรงอาจทำให้ผู้ส่งออกข้าวและโรงสีขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยผู้นำเข้าในทวีปแอฟริกามีความเสี่ยงที่จะชำระเงินล่าช้า หรือค้างชำระเงินค่าสินค้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยซ้าเติมการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้ ที่มีทั้งเรื่องภัยแล้งและการแข่งขันสูงในตลาดข้าวจากคู่แข่งสำคัญ คือ เวียดนาม ที่ปัจจุบันมีราคาส่งออกข้าวต่ำกว่าไทยประมาณ 80-90 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน


นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง


นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวไทย โดยมีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดอยู่ที่ 1.81.81.8%(ข้อมูลปี 2019 ) ในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางโดยรวม ประเมินว่าราคาน้ำมันไม่ได้ส่งผลกระทบเท่าใดนัก เมื่อพิจารณาสถานการณ์การหดตัวของราคาน้ำมันในช่วงปี 2015 -2016 เราพบว่านักท่องเที่ยวตะวันออกกลางที่มาไทยก็ยังคงเติบโตได้ในช่วงนั้นอยู่ โดยการหดตัวของนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางใน Q4/2015   เป็นผลจากสถานการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ ในขณะที่แม้ว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2016 ไปถึงปี 2017 แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาไทยก็ไม่ได้เติบโตเร่งขึ้นแต่อย่างใด

ดังนั้น เราจึงคาดว่าปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่ลดลงในปี 2020จะไม่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวตะวันออกกลางมาไทยน้อยลง แต่การหดตัวของนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางจะมาจากปัจจัยความกังวลของนักท่องเที่ยวต่อสถานการณ์ 

COVID-19 มากกว่า


อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันอาจส่งผลให้ นักท่องเที่ยวกลุ่ม Medical มาไทยลดลง เนื่องจาก รัฐบาลกลุ่มประเทศตะวันออกกลางอาจส่งเสริมให้ประชาชนเข้ารับบริการทางการแพทย์ในประเทศแทนเพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2016 ที่ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง เผชิญภาวะเศรษฐกิจหดตัว จากราคาน้ำมันที่ลดลง รัฐบาลจึงส่งเสริมให้ประชาชนเข้ารับบริการทางการแพทย์ในประเทศแทน และทาให้นักท่องเที่ยวกลุ่ม Medical  เดินทางมาไทยน้อยลงในปีดังกล่าว

ผลกระทบด้านบวกจากสงครามราคาน้ำมัน


ตามที่ราคาน้ำมันมีทิศทางลดลง อาจส่งผลบวกต่อธุรกิจที่มีต้นทุนจากน้ำมันเชื้อเพลิงในสัดส่วนที่สูง โดยธุรกิจ 5อันดับแรกที่จะได้ประโยชน์ ได้แก่ ธุรกิจบริการทางการเกษตร ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจประมง ธุรกิจเหมืองแร่ และธุรกิจผลิตปูนซีเมนต์ (ตารางปัจจัยการผลิตและผลผลิต 2010, ESDC) ซึ่งกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงอย่างชัดเจนคือ


ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ มีสัดส่วนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 34-60%ของต้นทุนการผลิตรวม โดยประเภทที่แบกภาระต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสูง ได้แก่ ขนส่งทางน้ำ ขนส่งทางถนน และขนส่งทางอากาศ (มีสัดส่วนต้นทุนน้ำมันที่ 

 58.85 และ 34.1% ตามลำดับ, NESDC ) การที่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลงจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ธุรกิจกลุ่มนี้ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันที่ลดลงอาจช่วยธุรกิจขนส่งทางเรือเดินทะเลและขนส่งทางอากาศหรือสายการ

บินได้ไม่มากในปี 2020 เนื่องจากกองเรือต้องเปลี่ยนมาใช้น้ำมันที่มีค่ากามะถันต่าตามมาตรการ IMO  2020   ซึ่ง

แพงกว่าน้ำมันเตาชนิดที่ใช้เดิม ส่วนธุรกิจขนส่งทางอากาศต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2020 ซึ่งคาดว่าจะนานถึงกลางปีนี้ และจะทำให้รายได้รวมมีโอกาสหดตัวลงจากจำนวนผู้โดยสารของสายการบินที่มีแนวโน้มลดลง

ถึง 8% โดยเป็นผลจากการลดและปิดเส้นทางการบิน



ที่มา ฝ่ายวิเคราะห์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X