ทันหุ้น - ส่องกลุ่ม Healthcare พื้นฐานแกร่ง พบ BCH - RPH - RJH - CHG - THG - EKH - BDMS กำไรสุทธิปี 2562 เด่น โบรกมองอนาคตยังเติบโตต่อเนื่อง จากแนวโน้มโรคระบาดส่งผลให้ประชาชนหันมาดูสุขภาพ อีกทั้งประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ ขณะที่ราคาหุ้นปรับลงลดสะท้อนปัจจัยลบ ไปมากแล้ว เป็นจังหวะเข้าซื้อลงทุน

"หนังสือพิมพ์รายวัน ทันหุ้น" รวบรวมข้อมูลจากการประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2562 ของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มีการเติบโตที่ค่อนข้างโดดเด่น โดยเรียง อันดับ จากสูงสุดไปน้อยที่สุด ได้แก่ 1) RPH ผลประกอบการทั้งปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 816.58ล้านบาท เพิ่มขึ้น 283.69 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 53.24% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 532.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่96.41 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 47.98 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 99.06% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 48.43 ล้านบาท

เฮลแคร์กำไรสุทธิหรู

2) BDMS ผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2562บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 92,534.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,438.04 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 14.10%เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 81,096.62 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 15,517.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,325.71 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตที่ 68.82%เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 9,191.46 ล้านบาท, 3) RJH ผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2562บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,901.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 296.42 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 18.02%เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 1,611.05 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 396.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.38 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 54%เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 258.16 ล้านบาท

4) EKH ผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2562บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 911.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 256.71 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 39.23%เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 654.29 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 160.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.07 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 36.76% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 117.21 ล้านบาท, 5) THG ผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 8,699.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,362.54 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 18.57% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 7,336.67 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 462.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 347.60 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 33.02% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 347.60 ล้านบาท

6) CHG ผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,190.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 760.03 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 17.15% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 4,430.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 705.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.36ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 11.25% เมื่อเทียบกับปีก่อน 633.88 ล้านบาท และ 7) BCH ผลการดำเนินงานในปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 8,996.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 813.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 9.9%เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 8,182.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 1,134.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 1,089.5 ล้านบาท

ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบ

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตราสารอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมองว่าในระยะนี้ค่อนข้างมีความน่าสนใจในการซื้อสะสมลงทุนระยะกลาง-ยาว เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลได้ปรับตัวลงไปรับปัจจัยลบจากเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปพอสมควรแล้ว

อีกทั้งมองว่า Downside จากนี้จะเริ่มอยู่ในกรอบที่จำกัดมากขึ้น ประเด็นไวรัสโควิด-19ประเมินว่าผลกระทบอาจไม่รุนแรงมากนักในเชิงของธุรกิจและเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ประกอบกับด้วยกระแสเทรนด์รักสุขภาพ รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุนั้น มองว่าเป็นเมกะเทรนด์ที่ทำให้คนหันมาตรวจเช็คสุขภาพกันถี่มากนั้น ซึ่งการให้บริการทางการแพทย์ส่วนนี้ให้มาร์จิ้นที่ค่อนข้างดี

ดังนั้นจึงมองว่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้ผลการดำเนินงานจะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ โดยทางฝ่ายยังคงแนะนำ "ซื้อ " BCH เพราะมีพื้นฐานธุรกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ดี นอกจากนี้ยังมองว่า EKH - BDMS - RPH - RJH และ CHG มีความน่าสนใจในการลงทุนเช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบและความถนัดของนักลงทุน โดยมองว่าแม้การเติบโตไม่หวือหวาแต่แข็งแกร่งต่อเนื่อง