ทันหุ้น- ถึงเทศกาลปันผล 55 หลักทรัพย์ขึ้น XDสัปดาห์นี้ รวม PTT-RATCH ท่ามกลางตลาดหุ้นถูกถล่ม พบ 13 หุ้น ราคาร่วงจนปันผลสูงลิบเกิน 5% พบ 2 หุ้นยีลด์พุ่งเกิน 10% STC-PAP ด้าน PTT ยีลด์แตะ 2.82%ด้านเลขาธิการ กบข. เพิ่มพอร์ตหุ้นไทย พร้อมทยอยซื้อ มองยาว 3 ปีรุ่ง เน้นกลุ่มสนามบิน และกลุ่มปันผลสูง

ท่ามกลางดัชนีหุ้นไทยที่ถูกถล่มลงลงแรงสัปดาห์เดียวกว่า 150 จุด พบว่า ทำให้หุ้นหลายตัวที่จะขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD)  สัปดาห์นี้ (2-6 มี.ค.)ร่วงต่ำลงมาด้วย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อเงินปันผลสูง (dividend yield) พุ่งขึ้น  จากการตรวจสอบของทีมงานทันหุ้นพบว่า ในสัปดาห์นี้จะมีหลักทรัพย์ที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD ถึง 55 หลักทรัพย์ด้วยกัน ทั้งหลักทรัพย์ที่เป็นหุ้น และ กลุ่ม REIT กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงหุ้นพิมพ์นิยมอย่าง PTT RATCH SCCC TU MAKRO BCP SPRC ด้วย

หากคัดเฉพาะหุ้นจะมีถึง 13 หลักทรัพย์ที่มีผลตอบแทนเงินปันผล (ดิวิเดนท์ ยีลด์) เมื่อเทียบกับราคาปิด 28 ก.พ. สูงเกิน 5% ประกอบด้วย อันดับ 1 STC จ่ายปันผลหุ้นละ 0.10 บาท ให้ผลตอบแทน 14.49% อย่างไรก็ตามบริษัทมีกำไรปี2562 ที่หุ้นละ 0.06 บาท และนำกำไรสะสมมาจ่ายปันผลด้วย อันดับ 2 PAP จ่ายปันผล 0.27 บาท ผลตอบแทน11.34% อันดับ 3 TIGER จ่ายปันผล 0.18 บาท ผลตอบแทน9.09% อันดับ 4BIZ จ่ายปันผล 0.25 บาท ให้ผลตอบแทน8.22% อันดับ 5 IFS จ่ายปันผล 0.24 บาท ให้ผลตอบแทน7.89%

อันดับ 6 ASK จ่ายปันผล 1.72 บาท ให้ผลตอบแทน7.54% อันดับ 7 SAT จ่ายปันผล 1.00 บาท ให้ผลตอบแทน7.52% อันดับ 8 UTP จ่ายปันผล 0.67 บาท ให้ผลตอบแทน7.09% อันดับ 9 ICN จ่ายปันผล 0.10 บาท ให้ผลตอบแทน6.37%อันดับ 10 SYNEX จ่ายปันผล 0.32 บาท ให้ผลตอบแทน5.61% อันดับ 11 TCCC จ่ายปันผล 1.10 บาท ให้ผลตอบแทน5.56%อันดับ 12 PHOL จ่ายปันผล 0.10 บาท ให้ผลตอบแทน5.32% อันดับ 13 JCT จ่ายปันผล 4.20 บาท ให้ผลตอบแทน5.19%

สำหรับ PTT จ่ายปันผล1.10 บาท ให้ผลตอบแทน 2.82% RATCH จ่ายปันผล 1.25 บาท ให้ผลตอบแทน 2.12%

@ กบข.แนะเคล็ดเลือกหุ้น

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวในรายการ “ทันหุ้นทันเกม” ว่า กบข. พร้อมที่จะเข้าไปเลือกหุ้นพื้นฐานดีโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงมาแรงอย่างกลุ่มสนามบิน ท่องเที่ยว ซึ่งหากราคาลงมามาก ก็จะเข้าไปลงทุน รวมไปถึงกลุ่มให้เงินปันผลสูงเกิน 4% อาทิ กองREITเเละกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

โดยในการเลือกลงทุนของ กบข. นั้นจะเป็นการมองระยะยาว 3 ปีขึ้นไป แม้ว่าการที่หุ้นลงมาอย่างแรงในปัจุบันจะเกิดจาก สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่กระทบกับเศรษฐกิจโดยตรง และมองว่าปีนี้เศรษฐกิจจะไม่ดี แต่ก็เชื่อว่าในปีหน้า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ โดย รัฐบาล กำลังวางมาตรการออกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะช่วยได้

ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อยหากสามารถรับความเสี่ยงได้เเบ่งทยอยรับทีละ 10% เเต่หากรับความเสี่ยงได้น้อยให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน ซึ่งสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังคงต้องใช้เวลา เเต่หากมีความคลี่คลายเกิดขึ้นตลาดพร้อมที่จะรีบาวด์ขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบันพอร์ตของ กบข. ถือหุ้นไทยที่สัดส่วน 4.5% ส่วนจะเพิ่มขึ้นไปแค่ไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์

"ตั้งเเต่ช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา SETindex ปรับตัวลงมาถึง 230 จุดคิดเป็น 11% ซึ่งดูจาก Valuation ตลาดราคาค่อนข้างถูก P/E 14 เท่า จาก EPS 95 บาท ดังนั้นซึ่งภาพรวมเกิดโกลบอลเเพนิกจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบทางจิตวิทยามายังนักลงทุนไทย ถือเป็นโอกาส"