สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า บล.ไทยพาณิชย์ มุมมองต่อตลาด SET ยังถูกกดดันจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจ จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยสร้างความกังวลมากขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอิตาลี สร้างภาวะ risk-off ต่อ ซึ่งมองเป็นปัจจัยหลักกดดันดัชนีอยู่ โดยมีแนวรับที่ 1475 และ 1460 จุด ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1500-1510 จุด ด้านปัจจัยภายในด้านการเมือง เสียงของรัฐบาลที่ห่างจากฝ่ายค้านมากขึ้น หลังยุบพรรคอนาคตใหม่ สร้างเสถียรภาพของรัฐบาลก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ (24-26 ก.พ.) ประเด็นสำคัญวันนี้ ติดตามตัวเลขส่งออกประจำเดือนม.ค.

กลยุทธ์การลงทุน Selective Buy ในกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำเป็นส่วนผสมของหุ้นปันผลดี หุ้นแนวโน้มกำไรดี หุ้น Defensive และหุ้น Laggard ได้แก่ BCH BEM BTS IVL PTTEP ยังถือต่อได้ และหุ้นแนะนำประจำวัน ได้แก่ CPF และ HANA

ประเด็นหลัก

ภาพรวมตลาดวันก่อน ดัชนีปรับลงแรงหนักในช่วงแรก ก่อนจะพลิกขึ้นมาปิดบวกได้ในช่วงท้าย โดยมีแรงหนุนเข้ามาในกลุ่ม ICT ขนส่ง การเงิน ตรงข้ามกับกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ปรับลง ด้าน Fund Flow ต่างชาติยังคงขายสุทธิ ตรงข้ามกับสถาบันฯ ที่พลิกมาซื้อสุทธิ ขณะที่ SET50 Futures ต่างชาติ Long ส่วนสถาบันฯ Short สุทธิเล็กน้อย ส่วน Stock Futures ต่างชาติและสถาบันฯ Long สุทธิทั้งคู่ โดย OI ของ SET50 Futures เพิ่มขึ้น แต่ OI ของ SSF ลดลง

ปัจจัยสำคัญ

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลง DJIA -0.8% S&P500 -1.1% Nasdaq -1.8% หุ้นเทคโนโลยีปรับลงหนัก นักลงทุนกังวลการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอิตาลี ส่งผลให้มีการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและพันธบัตรรัฐบาล โดย yield พันธบัตร 30 ปี ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.89%

(-) ราคาน้ำมันปรับลดลง WTI-F -0.9% Brent-F -1.4% โดยนักลงทุนกลับมากังวลอุปสงค์ชะลอตัวจากการแพร่ระบาด COVID-19 นอกจากนี้ยังผิดหวังที่กลุ่ม OPEC ไม่เร่งรีบที่จะตัดลดกำลังการผลิต โดยรัสเซียไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการประชุมฉุกเฉินก่อนการประชุมเดือน มี.ค.นี้

(0) จับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งในและนอกสภา โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ จะมีขึ้นวันที่ 24-26 ก.พ. ซึ่งเสียงของรัฐบาลอยู่ที่ 263 เสียง ขณะที่ฝ่ายค้านอยู่ที่ 224 เสียง หลังจากที่ศาล รธน. มีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ และเพิกถอนสิทธิฯ ของคณะ กก.บห. 16 คน เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งในจำนวนนี้เป็น ส.ส. 11 คน ทำให้ฝ่ายรัฐบาลมีเสียงสนับสนุนไม่ปริ่มน้ำ น่าจะทำให้การอภิปราย รวมถึงการพิจารณาโครงการลงทุนต่างๆ หลังจากนี้น่าจะราบรื่นขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองภายนอกสภา และความเห็นของต่างประเทศต่อการยุบพรรค ว่าจะมีผลต่อภาวะการลงทุนหรือไม่

ประเด็นติดตามวันนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออก-นำเข้า ม.ค. คาด -2.9%YoY, การประชุม ครม., วันแรกของการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ จากทั้งหมด 3 วัน

ประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้ 1) 24-26 ก.พ. - อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 2) 24 ก.พ. - ยอดส่งออก-นำเข้า ม.ค. ของไทย 3) 25 ก.พ. - ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.พ. ของสหรัฐ 4) 26 ก.พ. – ยอดขายบ้านใหม่ ม.ค. ของสหรัฐ 5) 27 ก.พ. – GDP 4Q62 ของสหรัฐ (ครั้งที่ 2)

Investment Ideas

ปัจจัยกดดันยังมี แนะนำทยอยรอสะสมที่แนวรับ ประเมินว่าวันนี้ตลาดหุ้นไทยอาจปรับตัวลงตามตลาดหุ้นภูมิภาค ทำให้ยังมองว่าบริเวณ 1500 จุดยังเป็นแนวต้านสำคัญในรอบนี้ จึงแนะนำทยอยสะสมหุ้นที่แนวรับ 1475 จุด โดยเลือกหุ้นที่ราคาไม่แกว่งผันผวน (BTS BEM) มีปัจจัยบวกสนับสนุน เงินปันผลสูง (PTTEP) หุ้น Laggard (IVL) และหุ้นแนวโน้มกำไรปีนี้โตเด่น (BCH) นอกจากนี้ เงินบาทที่อ่อนค่าลงมากตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมากว่า 4.3% น่าจะหนุนหุ้นส่งออกให้ยังสามารถปรับขึ้นได้ โดยแนะนำ CPF ที่กำไรปกติสูงกว่าคาด เพราะอัตรากำไรแข็งแกร่ง และ HANA ที่ยังปรับขึ้นไม่มากนัก ส่วน KCE แนะนำรอสะสมเมื่อย่อตัว

หุ้นแนะนำประจำวัน ได้แก่ CPF (รับ 29.50 ต้าน 31.00 cut 28.25) และ HANA (รับ 33.75 ต้าน 35.75 cut 32.50)