ทันหุ้น-CPN ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน เป็นบริษัทที่ 6 ในปีนี้ โดยจะซื้อหุ้นคืนในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท เป็นเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่ 6 มี.ค.ถึง 5 ก.ย.63 วางเป้าหมาย 5 ปี รายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 12% ศึกษาโอกาสซื้อกิจการ ในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ และผลตอบแทนดี โบรกแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 74 บาทต่อหุ้น

นางสาวอัมพาวีร์ ชมภูพงษ์เกษม เลขานุการบริษัท บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือ CPNแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท โดยจะซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 77 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกิน 1.7%ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนเป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม ถึงวันที่ 5 กันยายน 2563 เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนของบริษัท และเพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น(ROE) รวมถึงเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น(EPS)

**รายที่ 6 ประกาศซื้อหุ้นคืนปีนี้

ทั้งนี้พบว่า CPN เป็นบริษัทที่ 6 ซึ่งประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินภายในปีนี้ ล่าสุดเมื่อวันศุกร์(21 ก.พ.) ราคาปิดที่ 60 บาทต่อหุ้น ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

สำหรับ 6 บริษัทที่ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนในปีนี้ มีมูลค่าการซื้อหุ้นคืนรวม 15,610 ล้านบาท ประกอบด้วย  KBANK ซื้อหุ้นคืน 4,600 ล้านบาท หรือ 23.93 ล้านหุ้นหรือไม่เกิน 1%,   SPALI ซื้อหุ้นคืน 2,000 ล้านบาท จำนวน 120 ล้านหุ้น หรือ 5.6%   TPIPL ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 800 ล้านบาท จำนวน 383.61 ล้านหุ้น หรือ 2% , CK ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 3,000 ล้านบาท จำนวน 169.39 ล้านหุ้น หรือ 10%,  GIFT ซื้อหุ้นคืน 210 ล้านบาท จำนวน 70 ล้านหุ้นหรือไม่เกิน 16.96% เป็นการเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไปในราคา 3.00 บาทต่อหุ้น และล่าสุด CPN มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท จำนวน 77 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 1.7%

**เปิดแผนธุรกิจ 5 ปี

CPNกำหนดเป้าหมายธุรกิจในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า นับจากปีนี้ที่จะมีรายได้เติบโตในอัตราเฉลี่ยประมาณ 12% ต่อปี โดยในปี 2563 นี้รายได้จะเติบโตประมาณ 8% จากปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เติบโต มาจากรายได้จากการให้เช่าและบริการที่เติบโต รวมถึงรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ มีจำนวนโครงการที่พักอาศัยที่เปิดตัวแล้วและอยู่ระหว่างการขายและโอนอยู่ 7 โครงการ ณ สิ้นปี 2562 พร้อมกับมีโครงการที่เตรียมเปิดตัวในปี 2563 เพิ่มอีก 4-5 โครงการ โดยโครงการที่อยู่ใกล้ศูนย์การค้าที่ยังคงมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง

ส่วนแนวทางการขยายธุรกิจช่วง 5 ปี ได้กำหนดแนวทางการขยายธุรกิจในรูปแบบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม รวมถึงศึกษาโอกาสเข้าซื้อกิจการ(M&A) ล่าสุด ได้ประกาศแผนการลงทุนใหม่ 3แห่งในจังหวัดที่มีศักยภาพสูงได้แก่ที่อยุธยา ศรีราชา และจันทบุรี รวมถึงยังได้ร่วมกับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด(มหาชน) หรือ DTC ในการพัฒนาโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค นอกจากนี้ยังมีแผนปรับปรุงศูนย์การค้าทั้งหมด 14 แห่ง ซึ่งเป็นการปรับปรุงใหญ่ 2แห่ง ประกอบด้วย เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 และเซ็นทรัลพลาซา รามอินทรา  ขณะเดียวกันบริษัทก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจต่างประเทศ โดยเตรียมแผนการลงทุนในประเทศเวียดนาม และในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด มีมุมมองเป็นบวกต่อโครงการการซื้อหุ้นคืนของ CPN  โดยบริษัทประเมินว่าราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำเกินไป ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาซื้อหุ้นคืนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 64.94 บาท สูงกว่าราคาปัจจุบัน ประมาณ 9% โดยฝ่ายวิจัยเคทีบีคาดว่า จะช่วยหนุนราคาหุ้นและจำกัดการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นได้ โดยยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" CPN และราคาเป้าหมายที่ 74.00 บาทต่อหุ้น