สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า บล.ไทยพาณิชย์ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อสะสมหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง เนื่องจากมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นหลายอย่างด้วยกันรออยู่ข้างหน้า แม้ช่วงเวลาอาจจะแตกต่างไปจากสิ่งที่ผู้บริหารกล่าวไว้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเมื่อมีกระบวนการภาครัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่จะเกิดขึ้นได้จริงซึ่งจะกระตุ้นให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อประกาศออกมา ยังคงแนะนำ “ซื้อ” BTS ด้วยราคาเป้าหมาย 16 บาท

ความเคลื่อนไหวของหุ้น BTS อยู่ที่ 12.70 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 1.55% มูลค่าการซื้อขาย 240.77 ล้านบาท

ข้อมูลที่สำคัญ BTS จัดงานประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ผู้บริหารอัพเดทว่าบริษัทคาดว่าการต่อสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวน่าจะได้ข้อสรุปในเดือนมี.ค. แต่เรายอมรับว่าเรื่องนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดความล่าช้า เนื่องจากกระบวนการภาครัฐเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก สำหรับโครงการมอเตอร์เวย์ 2 สาย น่าจะเซ็นสัญญาในเดือนเม.ย. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาจะเซ็นสัญญาในเดือนมิ.ย. ผู้บริหารมั่นใจว่าโครงการนี้มีความเป็นไปได้ แม้ว่าจะเสนอผลตอบแทนให้กับรัฐบาลสูงกว่าคู่แข่งอย่างมาก สำหรับโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ BTS จะเปิดสถานีเพิ่มอีก 4 สถานี (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์-วัดพระศรีมหาธาตุ) ในเดือนมิ.ย. และจะเปิดเดินรถได้ตลอดสายใน 2H63 สำหรับโครงการใหม่ที่อาจเกิดขึ้น บริษัทคาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกจะเปิดประมูลในเดือนต.ค.

แผนการเกี่ยวกับสถานีสะพานตากสิน อัพเดทกับผู้บริหารเกี่ยวกับแผนที่ BTS จะปิดสถานีสะพานตากสินเพื่อปรับปรุงให้เป็นสถานีที่มี 2 ชานชาลา และเป็นรางคู่ เพื่อลดความแออัด ปัจจุบันโครงการนี้ได้รับอนุมัติ EIA เรียบร้อยแล้ว และบริษัทจะรอให้ครม.อนุมัติต่อสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวก่อนที่จะเริ่มการก่อสร้าง กำหนดการอย่างคร่าวๆ คือ BTS จะปิดสถานีสะพานตากสินในเดือนเม.ย. 2564 และน่าจะใช้เวลาก่อสร้างนาน 27 เดือน ต้นทุนการลงทุนจะมีจำนวน ~1.2 พันลบ. แต่จะเป็นการลงทุนร่วมกันระหว่าง BTS กับ BTSGIF สัดส่วนยังอยู่ระหว่างการเจรจา

จำนวนเที่ยวการเดินทางในเดือนม.ค. 2563 น้อย BTS รายงานจำนวนเที่ยวการเดินทางบนระบบรถไฟฟ้าสายหลักในเดือนม.ค. 2563 เติบโต 0.2% YoY สู่ 20.8 ล้านเที่ยวคน ส่งผลทำให้จำนวนเที่ยวการเดินทาง YTD เติบโต 3.3% เทียบกับประมาณการของเราที่ 4.5% และเป้าของผู้บริหารที่ 4-5% เราเล็งเห็นความเสี่ยง downside ต่อประมาณการของเรา แต่ downside น่าจะมีจำกัด เนื่องจาก BTS มีสัดส่วนการถือหุ้น 33% ใน BTSGIF

ปรับเป้าหมายทางการเงินเล็กน้อยเพราะประเด็นทางบัญชี BTS ปรับเป้ารายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาลดลงจาก 6.0-6.2 พันลบ. สู่ 3.8-4.0 พันลบ. แต่ปรับเป้าอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 20-25% สู่ 30-35% การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อกำไรสุทธิของ VGI การปรับเป้าหมายทางการเงินครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสะท้อนประเด็นทางบัญชี เนื่องจาก VGI ต้องยกเลิกรวมงบการเงินของ MACO หลังจาก VGI ไม่ได้มีอำนาจควบคุมใน MACO อีกต่อไป หลังจากทำธุรกรรมกับ PLANB

แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี SOTP ที่ 16 บาท ยังคงชอบ BTS เนื่องจากเล็งเห็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นหลายอย่างรออยู่ข้างหน้า ได้แก่ การต่อสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และโครงการมอเตอร์เวย์ 2 สาย เรายังไม่ได้รวมเอาสองโครงการหลังเข้ามาไว้ในประมาณการ เนื่องจากต้องการรอดูความชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไร ราคาเป้าหมายของเราประกอบด้วยมูลค่าสัมปทานในปัจจุบันที่ 12 บาท/หุ้น บวกกับมูลค่าการต่อสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ 4.0 บาท/หุ้น