> SET > ANAN

20 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 07:50 น.

ANANตัดใจเปิดแค่1โครงการ เร่งระบายสต็อก1.8หมื่นล้าน

ทันหุ้น –ANAN ลั่นปีนี้ปั๊มยอดโอน 2.2 หมื่นล้านบาท จาก Backlog ในมือที่มีอยู่กว่า 3.1 หมื่นล้านบาท ตัดใจเปิดโครงการใหม่เพียง 1 โครงการ มูลค่า 8.5 พันล้านบาท เหตุภาวะตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว ขณะที่ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท เน้นระบายสต็อกที่มีอยู่กว่า 1.8 หมื่นล้านบาท พร้อมมองหาแหล่งรายได้ใหม่สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลัก จัดงบลงทุน 3 พันล้านบาท ซื้อที่ดิน-ลงทุน เล็งออกหุ้นกู้อีก 6 พันล้านบาท


นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าปี 2563 ยอดโอน 2.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะโอนโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่ไตรมาส 2/2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถโอนในปีนี้ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรองรับการสร้างรายได้ในในระยะ 3 ปีข้างหน้า


*เร่งระบายสต็อก 1.8 หมื่นล.

ส่วนยอดขายในปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ทำได้ 2.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีการเปิดโครงการใหม่เพียง 1 โครงการเท่านั้น ได้แก่โครงการ IDEO พหลฯ-สะพานควาย มูลค่าโครงการ 8.5 พันล้านบาท วางเป้ายอดขายไว้ที่ 3.4 พันล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563และส่วนที่เหลือจะเน้นขายโครงการในสต็อกเพื่อสร้างรายได้กลับมา โดยในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายระบายสต็อก 1.2 หมื่นล้านบาท จากสต็อกทั้งหมดที่มีอยู่ 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมเป็นหลัก


“บริษัทตัดสินใจเปิดโครงการใหม่ในปีนี้เพียง 1 โครงการ เนื่องจากภาวะของตลาดอสังหาฯ ยังชะลอตัว ประกอบกับภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจในต่างประเทศ ทำให้การดำเนินธุรกิจในปีนี้ต้องมีความระมัดระวัง และควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ชะลอการลงทุนในประเภทสินค้าที่บริษัทไม่มีความถนัด ซึ่งในปีนี้ไม่มีการเปิดโครงการใหม่ แต่ทยอยพัฒนาและขายโครงการที่เปิดไปแล้วเพื่อระบายสต็อก ควบคู่ไปกับการระบายสต็อกคอนโดมิเนียม เพื่อสร้างรายได้กลับมาให้กับบริษัท และทำให้การบริหารต้นทุนของบริษัทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ” นายชานนท์ กล่าว


*เล็งแผนขยายแหล่งรายได้ใหม่

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนขยายแหล่งรายได้ใหม่และสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจหลักด้วยการลงทุนในโครงการมิกซ์ยูสครั้งแรกร่วมกับพันธมิตรอย่างกลุ่ม บีทีเอส บนที่ดินกว่า 200 ไร่ บริเวณหน้าโครงการ ธนาซิตี้ ติดถนนบางนา - ตราด โดยตั้งเป้าให้เป็น Smart City และ Technology & Innovation Hub เพื่อพลิกโฉมวงการที่อยู่อาศัยให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง สำหรับกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี (DTC) ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาและพัฒนาร่วมกัน

ขณะที่วางเป้าหมายรายได้ประจำ (Recurting Income) ในปี 2563ไว้ที่ 300 ล้านบาท จากการเปิดให้บริการโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ในกรุงเทพฯ 2 แห่ง คือ โครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ Somerset พระราม 9 และ โครงการ Lyf สุขุมวิท 8ซึ่งเปิดให้บริการไปแล้วในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมวางเป้าหมายรายได้ประจำในปี 2564 และปี 2565 มาอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท และ 1.8 พันล้านบาท ตามลำดับ โดยที่ในปี 2564จะมีโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ Ascott ทองหล่อ และ Ascott Embassy สาทร เปิดให้บริการ ส่วนในปี 2565จะมีโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ Somerset พัทยา เปิดให้บริการ


*ทุ่ม 3 พันล.ซื้อที่ดิน-ลงทุน

ด้านเงินลงทุนในปีนี้วางงบลงทุนไว้ที่ 3,000 ล้านบาท สำหรับซื้อที่ดิน และรองรับการลงทุนร่วมกับพันธมิตร เช่น การพัฒนาโครงการร่วมกับ BTS ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบที่เหมาะสมในการพัฒนาโครงการ ซึ่งบริษัทจะมีส่วนร่วมในการช่วยออกแบบและบริหารโครงการ โดยจะเริ่มลงทุนภายในปีนี้ ส่วนการร่วมกับ บมจ.ดุสิตธานี จำกัด (DTC) ในการลงทุนโครงการมิกซ์ยูส ที่พัทยา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จะเริ่มเปิดให้บริการภายในปี 2565


นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมในปีนี้วงเงิน 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดอายุในช่วงไตรมาส 2/2563 และไตรมาส 4/2563 ชุดละ 3 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะออกหุ้นกู้ชุดใหม่มาทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X