> SET > GGC

18 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 08:20 น.

GGCรัฐหนุนB10 หนุนผลงานเด่น พลิกกำไร94ล้าน

ทันหุ้น – GGC ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น หลังผลงานปี 2562 พลิกมีกำไร 94 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุนที่ 1.16 พันล้านบาท ยอดขายเมทิลเอสเทอร์โต 11% พร้อมทบทวนการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังหาย เชื่อปี 2563 เติบโตต่อเนื่อง ฟากโบรกมองปี 2563 รัฐหนุนใช้ B10 เป็นน้ำมันพื้นฐานเป้ยบวก คาดกำไรทั้งปีที่ 858 ล้านบาท ประเมินราคาเหมาะสมที่ 13 บาท


นางสาววัลภา โสภิสเขื่อนขันธ์ ผู้จัดการฝ่ายหน่วยงานการเงินและบัญชี บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน)หรือGGC เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการปี 2562 บริษัทพลิกมีกำไรที่ 94 ล้านบาท จากปี 2561 ที่ขาดทุน 1,161 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการขายรวมทั้งสิ้น 13,055 ล้านบาท ลดลง 20% จากปี 2561 ในขณะที่บริษัท มี EBITDA ที่ 499 ล้านบาท ลดลง 46% จากปีที่ผ่านมา แม้ว่าธุรกิจแฟตตี้ แอลกอฮอล์จะสามารสร้าง EBITDA ได้จำนวน 494 ล้านบาท แต่จากสภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมเมทิลเอสเทอร์จากการปรับเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตรวมในประเทศ ทำให้กดดันต่ออัตราการทำกำไรของผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์


โดยปี 2562 สามารถสร้างยอดขายของผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์ได้ 415,882 ตัน เพิ่มขึ้น 11% จากปี 2561 อยู่ที่ 40,960 ตัน เนื่องจากบริษัท มีกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์จากโรงงานแห่งที่ 2 เพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ช่วงไตรมาส 2/2562 ประกอบกับบริษัทสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์ได้จำนวน 6,800 ตัน ในช่วงไตรมาส 2/2562 ในขณะที่ผลิตภัณฑ์แฟตตี้ แอลกอฮอล์นั้น บริษัท มียอดขายในปี 2562 จำนวน 96,946 ตัน ปรับลดลง 17,838 ตัน หรือลดลง 16% จากปีก่อนหน้า


*ทบทวนตั้งสำรองฯ

ทั้งนี้บริษัทมีการทบทวนการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังขาดหายและได้มีการกลับรายการสำรองดังกล่าว จำนวน 217 ล้านบาท ตามมูลค่าจากการตีราคาของหลักประกันที่บริษัทฯ ได้รับจากการเข้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความข้างต้น


โดยมูลค่าดังกล่าวเป็นการกลับรายการที่น้อยกว่าราคาประเมินที่เป็นไปตามสมมติฐานของหลักการการขายทอดตลาด ซึ่งหากสุทธิด้วยรายการภาษีเงินได้รอตัดบัญชี ทำให้บริษัทฯ รับรู้รายการพิเศษจำนวน 110 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 94 ล้านบาท เป็นกำไรที่เพิ่มขึ้น


*จ่ายปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) อนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสดที่ 0.20 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 27 กุมพาพันธ์ 2563 และกำหนดจะจ่ายเงินปันผล 29 เมษายน 2563


ก่อนหน้านี้ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ GGC เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการปี 2563 จะเติบโตขึ้นจากปี 2562 โดยธุรกิจไบโอดีเซลจะมีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นคาดว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 แสนตัน จากปี 2562 ที่ประมาณ 4 แสนตัน หลังภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนการใช้น้ำมัน B10 เป็นน้ำมันเกรดพื้นฐาน และมีหัวจ่ายครบทุกสถานีบริการในวันที่ 1 มีนาคม 2563 ขณะที่กลุ่มแฟตตี้แอลกอฮอล์ ยังมีความต้องการต่อเนื่องแต่ในด้านส่วนต่างราคา (สเปรด) อาจจะไม่ได้สูงมากนัก จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น


ส่วนโครงการ "นครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์" (Nakhon Sawan Biocomplex) หรือ NBC เฟสแรก โครงการ NBC ถือเป็นไบโอคอมเพล็กซ์และ Bio Hub ครบวงจรแห่งแรกของไทย มูลค่าลงทุนรวมจะอยู่ที่ ไม่เกิน 7,500 ล้านบาท ขณะนี้ยังเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 1/2564 หากเสร็จจะสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มอีก 4,500 พันล้านบาท ซึ่งจะแบ่งการรับรู้รายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้น ขณะที่เฟส 2 ยังอยู่ในการศึกษาการลงทุนและหาพันธมิตรเข้าร่วมลงทุน


*ปี 63 โตก้าวกระโดด

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง GGC ว่า สำหรับปี 2563 คงมุมมองบวกต่อธุรกิจไบโอดีเซล ผลักดันด้วยมาตรการน้ำมันดีเซล B10 เป็นเกรดพื้นฐานของประเทศ ซึ่งกำหนดให้เดือนมีนาคม 2563 ทุกสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงต้องมีน้ำมันดีเซล B10 จำหน่าย ส่งผลให้ปี 2563 จะเห็นแรงหนุนจากธุรกิจไบโอดีเซลที่ชัดเจน


ขณะที่คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 เติบโตก้าวกระโดดเป็น 858 ล้านบาท แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2563 ที่ 13 บาท จากการเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางตรงจากนโยบายน้ำมันดีเซล B10 เปลี่ยนภาพผลการดำเนินงานปี 2563 จะ Turnaround เป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 3 ปี

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X