สำนักข่าว"ทันหุ้น"รายงานว่า หุ้นบริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT บวก 8.66% โบรกเกอร์มองเป็นหนึ่งในหุ้นที่รับผลดีจากการลงทุน 5G คาดปีนี้มีโอกาส Turnaround จับตาการเป็นพันธมิตรกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) หรือ CAT 

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น ALT เช้านี้อยู่ที่ 2.76 บาท บวก 0.22 บาท หรือ 8.66% ระหว่างวันราคาปรับขึ้นมาสูงสุดที่ 2.88 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 10.15 ล้านบาท 

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย)  มองว่าหุ้น ALT มีธุรกิจหลัก 3 ส่วนประกอบด้วย งานบริการสร้างสถานีฐาน ติดตั้งและซ่อมแซมอุปกรณ์โทรคมนาคม รวมถึงให้บริการวางสายเคเบิลใยแก้งนำแสง และ รายได้จากการขายอุปกรณ์ในกลุ่มโทรคมนาคม เช่น สายเคเบิลใยแก้งนำแสง ตู้โทรคมนาคม และสถานีโทรคมนาคมเคลื่อนที่ และALT เป็นเจ้าโครงข่ายโทรคมนาคม (Lease line - FOC) ที่เน้นให้บริการ IPLC หรือ เน้นเป็น Backup ให้กับ Operators

ทั้งสามธุรกิจมีความเกี่ยวข้องกับรอบการลงทุน 5G ในระยะแรกการติดตั้งและขายอุปกรณ์สถานีฐาน 5G เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อน จากนั้นความต้องการใช้ Lease line เพื่อรองรับการเติบโตของ Data จะตามมา

โดย CAT เป็นหนึ่งในผู้ชนะการประมูลคลื่น 700MHz ในวันที่ 16 ก.พ.2563 โดย CAT ลงทุนในคลื่นถึง 3.4 หมื่นล้านบาท ดังนั้นคาด CAT จะลงทุนโครงข่ายโทรคมนาคมจำนวนมากตามมา เพราะการมีเพียงคลื่นความถี่ไม่เกิดประโยชน์ เนื่องจากการลงทุนโครงข่ายใช้เงินลงทุนจำนวนมากและน่าจะต้องลงทุนต่อเนื่องหลายปี ทำให้ CAT ไม่สามารถลงทุนเองได้ทั้งหมด ดังนั้น CAT จำเป็นต้องหา Partner รายหลัก หนึ่งในนั้นคือ ALT 

 

หาก ALT สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์จาก Partnership ดังกล่าว เชื่อว่ารอบการเติบโตของธุรกิจหลักจะเกิดขึ้นอีกครั้งในยุค 5G ขณะที่ Backlogs ของ ALT เริ่มส่งสัญญาณฟืนตัว ณ สิ้นไตรมาส 4/62   อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท โดยปกติจะรับรู้ภายใน 1 ปี ดังนั้นรายได้หลักของ ALT มีลุ้นกลับไปที่ระดับเกิน 2 พันล้านบาทอีกครั้งเป็นไปได้  

ฝ่ายวิจัยบล.หยวนต้าฯ ยังไม่มีคำแนะนำและประมาณการสำหรับ ALT เนื่องจากเราอยู่ระหว่างติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และผลของการ Partnership กับ CAT ขณะที่ราคาหุ้น ALT ปัจจุบันอยู่ที่ 2.54 บาทต่อหุ้น ต่ำกว่าราคา IPO ที่ 4.70 บาทต่อหุ้น โดยในปี 2559 ALT ทำกำไรได้ราว 279 ล้านบาท เนื่องจากยังไม่มีธุรกิจ Lease line กดดัน ขณะที่ธุรกิจหลักทำรายได้ที่ 2 พันล้านบาท ดังนั้นหาก ALT สามารถหยุดขาดทุนในธุรกิจ Lease line และทำรายได้กลับไปที่ระดับ 2 พันล้านบาท จากรอบการลงทุน 5G หุ้นมีโอกาสกลับไปทำกำไรที่ระดับ 150-200 ล้านบาท เป็นไปได้ แต่ยังต้องรอการพิสูจน์อีกระยะ 

ในเชิงกลยุทธ์ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงถึง 56% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ทำให้ต้องระมัดระวังในการเก็งกำไรอย่างสูงและควรรอจังหวะหุ้นปรับฐานก่อน แต่เป็นอีกหุ้นที่น่าสนใจติดตามผลประกอบการที่มีโอกาส Turnaround ในปี 2563