ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคไปทดสอบแนวต้านที่ 1540 จุด หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1520-1525 จุด ถ้าสามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 1550 จุดขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1580 จุดเป็นจังหวะขายทำกำไร

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ หุ้น DOD หรือ บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า และตราสินค้าของบริษัท "Dai a to" (ได เอโตะ)

ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2562 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 219.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 62.58 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.76% เนื่องจากบริษัทฯรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จำนวน 24.73 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจเครือข่าย 44.72 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกปี 2562 บริษัทฯมีรายได้รวม 471.49 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนจำนวน 134.79 ล้านบาท หรือ 22.23 %

ในไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิ 20.03 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 72.75 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และในงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 79.09 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 296.07 ล้านบาทในงวดปีก่อน

ทั้งนี้สาเหตุที่บริษัทฯมีผลกำไรสุทธิลดลงเนื่องจาก บริษัทฯต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธุรกิจเครือข่าย อาทิ ค่าโฆษณา ค่าส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายแบบครั้งเดียว (One Time) จำนวน 11.91 ล้านบาท

นายธนา รังสิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2562 ว่า มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยจะเห็นได้จากยอดออร์เดอร์ ผลิตสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จากบริษัท อัลทิมา ไลฟ์ จำกัด (DOD ถือหุ้นอยู่ 80%) ซึ่งดำเนินธุรกิจในรูปแบบขายตรง ภายใต้ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร ที่เน้นสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด อาทิ One Whey (เวย์โปรตีน) , Levarean ( เลวารีน ), Prepo Fiber and Detox (เพรโป), Callox (แคลล็อกซ์), Zinegra (ซิเนกร้า) ,DOD H.Coffee (ดีโอดี เอช. คอฟฟี่) และ R3verse Vine (อาร์3เวิสวายน์) โดยล่าสุด DOD มีออร์เดอร์ใหม่ เข้ามาแล้วมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลรูปร่างและผิวพรรณ,ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ

ล่าสุด DOD มียอดออร์เดอร์ใหม่ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่รอการส่งมอบในช่วงไตรมาส 4/2562 คิดเป็นมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ขณะที่ อัลทิมา ไลฟ์ ได้ตั้งเป้ายอดขายตรง ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ที่ระดับ 150 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถขยายฐานกลุ่มสมาชิกเป็นตัวแทนขายภายในสิ้นปีนี้แตะจำนวน 35,000 ราย จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 21,000 ราย ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการขับเคลื่อนผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายได้อย่างมีนัยสำคัญ

DOD มีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ 3.06 บาท เมื่อเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบันที่ 9.40 บาท คิดเป็นอัตราส่วน Price/Book Value Ratio ที่ประมาณ 3 เท่า และมีอัตราส่วน P/E Ratio อยู่ที่ 40 เท่า

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 9.70-9.80 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสถูกขายทำกำไร โดยมีแนวรับที่ 9.00 เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ และมีแนวรับสำคัญที่ 8.60 ถ้าย้อนกลับลงไปอีกครั้ง จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค ในขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 9.80 ขึ้นไป จะมีแนวต้านถัดไปที่ 10.00-10.30 เป็นแนวต้านสำคัญ

สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Teerasak Trendtalk