สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า บล.ไทยพาณิชย์ สแกน "กลุ่มท่องเที่ยว" ชอบแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในระยะยาว แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอู่ฮั่นจะส่งผลกระทบต่อช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย สร้างแรงกดดันต่อผลประกอบการของผู้ประกอบการโรงแรม  และจะส่งผลทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยตกอยู่ในภาวะซบเซาในระยะ 3 เดือนข้างหน้า 

อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลงและคาดว่าภาคธุรกิจในจีนจะกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้งราววันที่ 10-14 ก.พ. ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น ขณะนี้ หุ้นโรงแรมซื้อขายที่ valuation ระดับวิกฤต สะท้อนถึงความคาดหวังระดับต่ำของตลาดต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยและผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการโรงแรม ซึ่งหมายความว่าราคาหุ้นพร้อมที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เมื่อมีพัฒนาการเชิงบวกเกิดขึ้น มองว่าจุดเข้าซื้อที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาว คือ หลังจากประกาศผลประกอบการที่อ่อนแอผิดปกติใน Q1/63 ERW และ MINT เป็น top picks

**ไฮซีซั่น Q1/63 ซบเซา 

แนวโน้มกลางๆ ในปี 2563 หลังจากจีนมีคำสั่งห้ามขายทัวร์และหยุดการดำเนินธุรกิจในบางพื้นที่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอู่ฮั่น คาดว่าช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง YoY อย่างมาก (จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของภาคการท่องเที่ยวไทย โดยคิดเป็นสัดส่วน 28% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในปี 2562) ทีมนักกลยุทธ์ของเราคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะชะลอตัวลงในเดือนก.พ. หลังจากที่ Q1/63 ได้แย่ไปแล้ว 

โดยคาดว่าสถานการณ์โดยรวมน่าจะดีขึ้นในครึ่งหลังปี 2563 เนื่องจากจีนมีแนวโน้มที่จะออกมาตรการกระตุ้นเชิงรุกเพื่อกระตุ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาอู่ฮั่นระบาด ปรับสมมติฐานอัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในปี 2563 ลดลงสู่ 1.5% (จากเดิม 4%) ชะลอตัวลงจากที่เติบโต 4% ในปี 2562 สมมติฐานของเราสะท้อนถึงภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยแบบกลางๆ ในปี 2563 เนื่องจากความท้าทาย (ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเงินบาทแข็งค่า) ยังคงอยู่ แม้คาดว่าจะฟื้นตัวได้บ้างหลังจากการแพร่ระบาดชะลอตัวในครึ่งหลังปี 2563

**ปรับประมาณการกำไรลง 

ปรับประมาณการกำไรปี 2563-64 ของผู้ประกอบการโรงแรม (CENTEL ERW และ MINT) ลดลง หลักๆ เกิดจากรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) ที่ลดลง เราคาดว่า RevPar จะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากปี 2562 (-4-11%) ถึงปี 2563 (-4-6%) แต่คาดว่าจะกลับมาเติบโตในปี 2564 (+4-7%) ทั้งนี้ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ความต้องการเดินทางลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาอู่ฮั่นระบาด ผู้ประกอบการโรงแรมจะมุ่งเน้นไปที่การควบคุมต้นทุน เช่น ลดค่าใช้จ่ายพนักงานล่วงเวลา และลดค่าใช้จ่ายการตลาด

 **รีบาวด์ระยะสั้น 

ประเทศจีนวางแผนอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินการเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดชะลอตัวในช่วงวันที่ 10-14 ก.พ. ซึ่งเรามองว่าเรื่องนี้จะเป็นปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น และคาดว่าราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะรีบาวด์สู่ระดับก่อนการแพร่ระบาด 

สำหรับการลงทุนระยะยาว หุ้นโรงแรมซื้อขายต่ำกว่าระดับวิกฤตครั้งที่ผ่านๆ มา (สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในปี 2551 และปี 2557, การปราบปรามผู้ประกอบการทัวร์ศูนย์เหรียญ และช่วงไว้อาลัยในปี 2559) สะท้อนถึงความคาดหวังระดับต่ำของตลาดที่มีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยและผลการดำเนินงานของผู้ประกอบการโรงแรม ซึ่งมองว่าจะช่วยป้องกัน downside ของราคาหุ้นให้กับนักลงทุนระยะยาว 

โดยเชื่อว่าราคาหุ้นพร้อมที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทันทีที่มีข่าวดีเข้ามา เรามองว่าจุดเข้าซื้อที่ดี คือ หลังจากประกาศผลประกอบการที่อ่อนแอผิดปกติใน Q1/63 top picks ของเรา คือ ERW (ราคาเป้าหมายใหม่ 6 บาท/หุ้น, คาดรีบาวด์ได้แรงในระยะสั้น) และ MINT (ราคาเป้าหมายใหม่ 40 บาท/หุ้น, ซื้อขายที่ EV/EBITDA ต่ำกว่าระดับวิกฤตอยู่ 10%)

ความเคลื่อนไหวของหุ้น ERW อยู่ที่ 4.58 บาท ลดลง 0.12 บาท หรือ 2.55% มูลค่าการซื้อขาย 13.70 ล้านบาท

ความเคลื่อนไหวของหุ้น MINT อยู่ที่ 33.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.48% มูลค่าการซื้อขาย 164.73 ล้านบาท