> SET > MAJOR

07 กุมภาพันธ์ 2020 เวลา 14:23 น.

3 โบรกส่อง MAJOR คาดปีนี้เหนื่อย เหตุหน้าหนังอ่อนแอกว่าปีก่อน

สำนักข่าว"ทันหุ้น"รายงานว่า โบรกเกอร์ 3 รายออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท  เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ประเมินว่าในปีนี้ภาพยนตร์ที่ทำเงินสูง มีจำนวนน้อยกว่าปีก่อน แต่ปริมาณภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น  เป็นปัจจัยผลักดันให้กำไรปีนี้ยังเติบโตเล็กน้อย ขณะที่ผลกระทบจากไวรัสโคโรนา มองว่าเป็นแค่ผลกระทบที่จำกัด 


บล.ทรีนีตี้ เชื่อว่าในปี 2563 ไม่มีภาพยนตร์เรื่องไหนที่จะสามารถทำรายได้แซง Avengers: Ending Game ที่กวาดรายได้สูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ 753 ล้านบาทอย่างแน่นอน ภาพยนตร์ที่ดูมีโอกาสทำรายได้สูงสุดในปีนี้ คาดว่าจะเป็น Fast & Furious 9 เท่านั้น ซึ่งในภาคก่อนๆทำรายได้ราว 400-500 ล้านบาท  ทำให้มองว่าปี 2563  ภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ ๆที่ทำรายได้ดีในระดับ 200-300 ล้าน จะมีน้อยกว่าปี 2562  ที่ผ่านมา แต่ด้วยจำนวนภาพยนตร์ในปีนี้ที่คาดว่าจะมากกว่าปีก่อน ทำให้ต้องหวังพึ่งภาพยนตร์เกรด B ที่คาดว่าจะทำรายได้ราว 80-100 จำนวนที่มากขึ้นมาทดแทน 


มองว่า MAJOR จะมีรายได้ในปี 2563 ทรงตัวที่ 10,785 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 0.5% แต่ในด้านต้นทุนมองว่าบริษัทจะยังควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จะทำให้บริษัทมี GPM ที่ดีขึ้นเล็กน้อยเป็น 34.4% จาก 34.2% ในปี 2562 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรปกติในปี 2563  เป็น 1,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% 


คาดว่ากำไรปกติงวดไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 259 ล้านบาท ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะหน้าภาพยนตร์ที่อ่อนแอกว่า โดย 10 อันดับหนังทำเงินของบริษัท ทำได้เพียง 987 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ทำได้ 1,275 ล้านบาท ทำให้คาดว่ารายได้จากตั๋วหนังจะลดลง 12% อย่างไรก็ตามบริษัทยังควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นยังทรงตัวอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 34.5%   SG&A ไม่มีการบันทึกการด้อยค่าของสินทรัพย์เหมือนกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 


ราคาหุ้นของ MAJOR ปรับตัวลดลงอย่างมากจากจุดสูงสุดเกือบ 30% มองว่าราคาหุ้นได้ตอบรับเชิงลบต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2563 รวมไปถึงผลกระทบจากไวรัสโคโรนาไปบ้างแล้ว ซึ่งยังเชื่อว่าหากบริษัทยังคงแนวโน้มการจ่ายเงินปันผล 90% ของกำไรเช่นเดิม เงินปันผลในปี 2563 ที่ 1.35 บาท จะสะท้อนอัตราเงินปันผลที่สูงถึง 6% ต่อปี ทำให้ยังคงแนะนำ "ซื้อ" เพื่อรับเงินปันผล ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 25 บาทต่อหุ้น  


ฝ่ายวิจัยบล.ทรีนีตี้ ระบุอีกว่า ผู้บริหาร MAJOR ได้ชี้แจงว่าจากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าที่ได้แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ บริษัทยอมรับว่ามีผลกระทบต่อการเข้ามาชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ของ MAJOR แต่ไม่มาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นโรงภาพยนตร์ที่อยู่ในกรุงเทพ และเป็นบางแห่งเท่านั้นที่คนดูหนังน้อยลง ขณะที่จากการลงไปตรวจสอบโรงภาพยนตร์ก็พบว่าคนที่มาดูหนังส่วนใหญ่ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค ทั้งนี้ สัดส่วนคนดูหนังของ MAJOR ส่วนใหญ่เป็นคนไทย ส่วนคนจีนมีน้อยมาก เนื่องจากปัจจุบันคำบรรยายภาพยนตร์ของหนังไทยจะมีเพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น และถ้าเป็นหนังต่างประเทศก็จะมีคำบรรยายเป็นภาษาไทยเท่านั้น ยังไม่มีคำบรรยายภาษาจีน


ด้วยประเด็นดังกล่าว ทำให้ฝ่ายวิจัย เชื่อว่าประเด็นไวรัสโคโรน่าจะกดดันเพียงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเท่านั้น  ซึ่งบริเวณที่คาดจะได้รับผลกระทบน่าจะเป็นเพียงบริเวณพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่นและบริเวณแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในบริเวณกรุงเทพและปริมณฑลอที่มีชาวจีนเป็นจำนวนมากเท่านั้น ในขณะที่เราเชื่อว่าโรงหนังในต่างจังหวัดที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวและไม่ใช่พื้นที่ที่มีชาวจีนเดินทางไปนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด 


บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)  มองเช่นกันว่า ในปีนี้ ภาพยนตร์ขนาดกลางทำรายได้เพิ่ม ลดการพึ่งพาภาพยนตร์ฟอร์ใหญ่ โดยคาดรายได้ของ MAJOR ยังเติบโตจากรายได้ต่อเรื่องเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีสาขามากขึ้น โดยปีนี้จะเปิดโรงหนังอย่างน้อย 33 โรง รวมเป็น 847 โรง ขณะที่หนังขนาดกลางซึ่งทำรายได้หลักร้อยล้านบาทมีหลายเรื่องมากขึ้น  อีกทั้งยังมีหนังใหญ่ เช่น Fast & Furious 9 ซึ่งคาดจะทำรายได้กว่า 400 ล้านบาท MAJOR ยังมีการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่าจะสามารถชดเชยกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น 30 ล้านบาท/ปี จาก TFRS 16 


ได้ปรับประมาณการปี 2562-2564 ลง 2-4% ภายใต้สมมติฐานแบบระมัดระวังมากขึ้น แต่ยังคาดว่ากำไรปีนี้เพิ่มขึ้น 10% แม้ปีนี้ไม่มีหนัง Avengers ที่ทำรายได้สูงเหมือน 1-2 ปีก่อน แต่รายได้เฉลี่ยของหนังต่อเรื่องมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการมีโรงหนังเพิ่มขึ้น การลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายจะชดเชยผลกระทบจาก TFRS 16 คาดผลกระทบจำกัดจากไวรัสโคโรนา 


โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/62 เท่ากับ 261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาส 3/62 หากไม่รวมกำไรจากการขายหุ้น SF ในไตรมาส 4/61  กำไรปกติเติบโต 14%  เนื่องจากรายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น 12% จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนโรงและหนังเข้าฉาย อีกทั้งค่าใช้จ่ายลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดตัว Icon Cineconic แต่รายได้การขายตั๋วลดลง 12% จากฐานสูงในไตรมาส 4/61   เนื่องจากหนังทำรายได้สูง เช่น นาคี 2 (284 ล้านบาท) และ Aquaman (277 ล้านบาท) เทียบกับไตรมาส 4/62  หนังรายได้สูงสุดคือ ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค (197 ล้านบาท) Maleficent 2 (171 ล้านบาท) และ Frozen 2 (149 ล้านบาท) 


นอกจากนี้คาดเงินปันผลในครึ่งหลังปี 62  ที่ 0.75 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนครึ่งปี 3.4%


ส่วนผลกระทบจากไวรัสโคโรนายังต้องติดตาม โดยนักท่องเที่ยวจีนไม่ใช่ลูกค้าหลักของ MAJOR แต่ยังต้องติดตามว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาจะกระทบต่อจำนวนคนเข้าโรงมาก-น้อยเพียงใด ซึ่งอาจกดดันผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้   อย่างไรก็ดี หากมีการควบคุมการระบาดได้ดี คาดว่าจำนวนลูกค้าจะกลับมาเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/63  ที่มีหนังฟอร์มใหญ่ เช่น Fast 9, Top Gun : Maverick, Artemis Fowl,  Wonder Woman 1984, และ Bond 25 รวมทั้งหนังไทย เช่น อีเรียมซิ่ง (เบลล่า) 

          

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น MAJOR เช่นกัน โดยให้ราคาเป้าหมาย 29.25 บาท/หุ้น คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 254 ล้านบาท ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ภาพยนตร์ที่ทำรายได้น้อยกว่าปีก่อน ทำให้รายได้ค่าตั๋วและอาหาร/เครื่องดื่มลดลง แต่มีรายได้โฆษณาและ MPIC ดีขึ้น เข้ามาช่วยชดเชยได้บางส่วน คาดต้นทุนปรับตัวลงตามรายได้ แต่ SG&A จะลงมาก เพราะปีก่อนมีค่าใช้จ่ายเปิดโรงที่ไอคอนสยาม ด้อยค่าสินทรัพย์และ MPIC รายได้อื่นปรับตัวลงจากปีก่อนมีกำไรขายเงินลงทุน 38 ล้านบาท กำไรที่ทำได้ในไตรมาส 4/62   ถือว่าดีกว่าที่มองไว้เดิม ทำให้คาดการณ์ทั้งปี 2562 เพิ่มเป็น 1,159 ล้านบาท  จากเดิมที่ 1,119 ล้านบาท  ลดลง จากปี 2561 จากกำไรขายเงินลงทุนลดลง  และคาดจ่ายปันผลในครึ่งหลังปี 2562  ที่ 0.50 บาท  โดยทั้งปี 2562 ที่ระดับ 1.15 บาท 


ราคาหุ้น MAJOR พักเที่ยง อยู่ที่ 22.70 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 2.25% มีมูลค่าการซื้อขาย 49.41 ล้านบาท 


         

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X