สำนักข่าว "ทันหุ้น" รายงานว่า บล.ไทยพาณิชย์ มุมมองต่อตลาด คาด SET วันนี้มีแนวโน้มชะลอตัวเพื่อลดความร้อนแรงในระยะสั้น โดยคาดมี Upside จำกัดก่อนในระยะสั้นบริเวณ 1540-1545 จุด หลังในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นไปกว่า 40 จุด รวมถึงคาดจะเผชิญแรงขายทำกำไรบางส่วนก่อนช่วงหยุดยาวในสัปดาห์นี้ ด้านตลาดหุ้นต่างประเทศเคลื่อนไหวชะลอตัวเช่นกัน หลังฟื้นตัวมาก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ภาพรวมยังมองตลาดจะปรับขึ้นได้ต่อ โดยมองสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะคลี่คลายลง และการใช้มาตรการของธนาคารกลางเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ด้านแนวรับอยู่ที่ 1520-1525 จุด ซึ่งใช้เป็นจุดรองรับ ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตามศาล รธน.อ่านคำวินิจฉัยร่าง พรบ. งบฯ ปี 63 เป็นโมฆะหรือไม่

กลยุทธ์การลงทุน ซื้อถือ และการอ่อนตัวเป็นโอกาสซื้อสะสมแนะนำแนวรับบริเวณ 1520-1525 จุด กลุ่มหุ้นที่เราแนะนำเป็นส่วนผสมของหุ้นปันผลดี หุ้นแนวโน้มกำไรดี หุ้น Defensive และหุ้น Laggard ได้แก่ ADVANC AMATA (แทน BDMS) BTS IVL PTTEP หุ้นแนะนำประจำวัน ได้แก่ ADVANC และ AMATA

ประเด็นหลัก

ภาพรวมตลาดวันก่อน ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยกลุ่มที่ปรับขึ้นได้ คือ ธนาคาร ส่วนกลุ่มที่ปรับลง คือ ICT ด้าน Fund Flow นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิค่อนข้างมาก แต่สถาบันฯ ซื้อสุทธิค่อนข้างมากเช่นกัน ขณะที่ SET50 Futures ต่างชาติสลับมา Short แต่สถาบัน Long สุทธิ เข่นเดียวกับ Stock Futures ต่างชาติ Long แต่สถาบันฯ Short สุทธิเช่นกัน โดย OI ของ SET50 Futures ลดลง ส่วน OI ของ SSF เพิ่มขึ้น

ปัจจัยสำคัญ

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น DJIA +0.3% S&P500 +0.3% Nasdaq +0.7% หนุนจากจีนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงิน 7.5 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าเฟส 1 รวมทั้งการรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานฯ ต่ำสุดรอบ 9 เดือน

(+) ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น WTI-F +0.4% Brent-F +0.3% นักลงทุนคาดว่า OPEC จะลดกำลังการผลิตลงอีก 6 แสนบาร์เรลต่อวัน แต่จะรอดูการตัดสินใจของรัสเซียอีกครั้ง

(+/-) ลุ้นวันนี้ ศาล รธน.อ่านคำวินิจฉัยร่าง พรบ. งบฯ ปี 63 โมฆะหรือไม่ ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่คาดว่าจะต้องใช้เวลาถึง 30 วันเป็นอย่างน้อย โดยศาลฯ ระบุว่าคดีดังกล่าวมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวน ขณะที่ตลาดหุ้นตอบรับประเด็นนี้ไปพอสมควรแล้ว ดังนั้น หากผลการวินิจฉัยออกมาในเชิงบวก จึงอาจต้องระมัดระวังการเกิด Sell on fact ในกลุ่มรับเหมาฯ แต่หากออกมาในเชิงลบ อาจเป็น sentiment ลบต่อภาวะการลงทุน

ประเด็นสำคัญสัปดาห์หน้า 1) 10 ก.พ. – เงินเฟ้อ ม.ค. ของจีน 2) 11 ก.พ. – GDP 4Q62 ของ UK 3) 12 ก.พ. – MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นเข้าคำนวณดัชนีรอบ 2Q63 4) 13 ก.พ. - เงินเฟ้อ ม.ค. ของสหรัฐ 5) 14 ก.พ. - GDP 4Q62 ของ EU, ยอดค้าปลีก ม.ค. ของสหรัฐ 6) 14-15 ก.พ. – ประชุมฉุกเฉิน OPEC

Investment Ideas

มาตรการกระตุ้นลงทุนชุดใหม่หนุนกลุ่มนิคมฯ ชอบ AMATA มากสุด บอร์ด BOI เห็นชอบมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มเติมเป็นเวลา 5 ปี แก่อุตสาหกรรมที่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5-8 ปี โดยบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมจะต้องมีการลงทุนไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ภายในปี 2563 หรือไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2564 เราประเมินว่ามาตรการนี้จะช่วยเร่งการตัดสินใจลงทุน และสนับสนุนให้ความต้องการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นบวกต่อผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมทุกราย (AMATA ROJNA WHA) เราแนะนำ AMATA เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เพราะมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการใช้งานถึง 12 เดือน ทั้งยังมี upside ส่วนเพิ่ม 6% จาก AMATAV และโครงการต่างประเทศในเมียนมา (5,000 ไร่) และลาว ราคาหุ้นที่ลดลง 18% YTD เป็นการปรับตัวลดลงมากเกินไป และเปิดโอกาสให้เข้าซื้อ

หุ้นแนะนำประจำวัน ได้แก่ ADVANC (รับ 197.00 ต้าน 214.00 cut 189.00) และ AMATA (รับ 17.10 ต้าน 18.00 cut 16.40)